ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ และหลายพื้นที่ในภาคกลาง ภาคอีสาน ช่วงฤดูแล้งของทุกปี เป็นวงจรที่เกิดขึ้นมานับสิบปี ต้องมีมาตรการ , การรณรงค์ กันทุกปี ซ้ำซากวนเวียน นอกจากนี้ยังทำให้มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจอีกเป็นจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ภาครัฐนั้นก็ทราบปัญหานี้ดี แต่ก็ไม่ได้ใช้มาตรการที่ตรงจุดในการแก้ไข
ปัญหาหมอกควันนั้นเกิดจากสาเหตุใหญ่ ๆ คือ
- การเผาไร่อ้อย ในฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยช่วงปลายปีต่อต้นปี เกษตรกรจะใช้วิธีเผาไร่อ้อย เพื่อขจัดใบอ้อย แล้วให้คนงานเข้าไปตัดกอง จากนั้นจะมีรถคีบ คีบอ้อยขึ้นรถบรรทุกเพื่อส่งไปยังโรงงานน้ำตาล แม้การเผานี้จะทำให้มูลค่าอ้อยลดลงกว่าการตัดอ้อยแบบไม่เผาอยุ่มากก็ตาม ทางแก้ปัญหาคือต้องบังคับให้โรงงานน้ำตาลไม่รับอ้อยที่เกิดจากการเผา เกษตรกรต้องดูแลไร่ของตนเองให้ดี หากมีปัญหาไฟไหม้ ต้องมีการสอบสวน และตั้งค่าปรับ เพื่อไม่ให้เกิดการอ้างใด ๆ ขึ้นได้
- การเผาที่นา ไร่ข้าวโพด หลังเก็บเกี่ยว เป็นปัญหาหลักในภาคเหนือ โดยเฉพาะไร่ข้าวโพด ที่บริษัทอาหารสัตว์ยักใหญ่ ต้องการข้าวโพดในวงจรธุรกิจของตน ส่งเสริมการปลูกโดยไร้จรรยาบรรณ หรือสามัญสำนึก ทำให้เกิดการรุกพื้นที่ป่า ภูเขาสูง เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางบริษัทฯ นั้นสามารถทราบได้จากปริมาณข้าวโพดที่รับซื้อ กับพื้นที่เพาะปลูกปกติ ซึ่งมันไม่สมดุลกันอย่างยิ่ง
- การเผาป่า ทั้งที่ทำเพื่อการไล่ต้อนสัตว์ป่า(แล้วเกิดลุกลาม) , หาของป่า เช่น เห็ด หรือผักหวาน หรือ เพื่อทำทำการเกษตร พวกนี้สร้างผลเสีย 2 ต่อ คือการเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำ
การทำการเกษตรแบบเห็นแก่ได้อย่างนี้ ไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม ทั้งทางธรรมชาติ และผลกระทบต่อผู้คน สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการ ต้องไล่บี้ไปยังบริษัทใหญ่ที่เป็นต้นเหตุเสียก่อน ให้รับเฉพาะพืชผลการเกษตรที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม ไม่เช่นนั้นในอนาคตข้างหน้า จะสร้างความเสียหายระยะยาวให้กับประเทศและสิ่งแวดล้อม จนยากที่จะฟื้นคืน(ทีมันร้อนขึ้นทุกวันนี้ คิดว่ามาจากสาเหตุอะไรล่ะครับ)
ต่อไปประเทศที่พัฒนาแล้วอาจมีจะมาตรการกีดกันสินค้าการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์น้ำตาลที่มาจากการเผาอ้อย , ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่มาจากการเผาไร่ เผาป่า เป็นต้น เหมือนอย่างที่สินค้าเกี่ยวกับการประมงทะเล ที่ถูกแบนจากข้อหา ค้ามนุษย์ และ ทำลายสิ่งแวดล้อม
เรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมนี่ไม่ควรให้ต้องมีการกีดกันเสียก่อน แล้วจึงค่อยปรับปรุง แก้ไข ควรเป็นจิตสำนึกของผู้มีส่วนเกียวข้อง ทั้งภาครัฐ นายทุน เกษตรกร ยิ่งปรับตัวช้า ยิ่งเสียเปรียบ จริงมั๊ย ?