ใครว่านิสัยเปลี่ยนไม่ได้ สำหรับคนเราแล้ว เราสามารถพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิมได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนนิสัยบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำทุกวันจนสิ่งที่ทำนั้น กลายเป็นนิสัยถาวรของเราได้ นั่นคือหลักการของ "ทฤษฎี 21 วัน" หรือ 21 Day Habit Theory
ทฤษฎี 21 วัน นั้นริเริ่มโดย ดร. แมคเวล มอลท์ (Dr. Maxwell Maltz) โดยตีพิมพ์เอาไว้ในหนังสือชื่อว่า Psycho Cybernetics มีหลักการคือ การเปลี่ยนนิสัย(Habit) โดยการปฏิบัติตัว หรือทำพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน เมื่อทำได้แล้วพฤติกรรมนั้นก็จะกลายเป็นนิสัยใหม่ของเราไปโดยปริยาย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการสร้างนิสัยใหม่ แทนที่นิสัยเดิมนั่นเอง
แม้ว่าดูจะเหมือนเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แต่ในความจริงแล้ว การที่ต้องบังคับตัวเองให้ทำสิ่งใหม่ที่แตกต่างจากเดิม เรามักจะเผลอหรือลืม กลับไปทำนิสัยหรือพฤติกรรมแบบเดิม ๆ จนทำให้หลักการ 21 วันต่อเนื่องนั้น ไม่สามารถทำได้ แต่หากบังคับตัวเองผ่านช่วง 7-10 วันแรกไปได้แล้ว ก็จะเริ่มเกิดความเคยชิน และสามารถทำต่อเนื่องไปได้เอง ไม่รู้สึกแปลกแยก หรือฝืนเหมือนในช่วงแรก ๆ แล้ว
ทฤษฎี 21 วันเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องเรียน การออกกำลัง หรือ การออมเงิน มาดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ ว่านิสัยอะไรที่เราจะเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ เพื่อตัวเราเองในอนาคต
ออกกำลังกายวันละ 30 นาที หลายคนเคยสัญญากับตัวเองว่าจะออกกำลังกาย จะลดน้ำหนัก ปีแล้ว ปีเล่า ก็ทำไม่เคยได้สักที ยิ่งนั่งทำงานนาน ๆ จะเป็นโรค Office Syndrome มาลองตั้งจุดหมายให้ตัวเองมีเวลาออกกำลัง อย่างน้อยก็เดินเร็ว ต่อเนื่องสัก 25-30 นาทีต่อวัน ใส่หูฟัง ๆ Pod Cast สาระดี ๆ แกว่งแขนไปด้วยก็ได้(อย่าแกว่งปากล่ะ 55) จะให้ดีก็ใช้แอพออกกำลังกายช่วยติดตาม บันทึกการออกกำลังกายรายวันของเราไปด้วย จะได้สนุกขึ้นว่าวันนี้เราทำได้ดีแค่ไหน พอเราชินแล้ว ร่างกายเราจะคล่องตัวขึ้น ไม่อึดอัด และจะรู้สึกอยากออกกำลังที่มากขึ้นก็เป็นได้
ปรับการนอนให้เป็นเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนนั้นสำคัญ ขนาดโทรศัพท์เรายังต้องชาร์จแบตเลยใช่มั๊ย คนเราก็ต้องมีเวลาชาร์จแบตให้กับตัวเองในแต่ละวันเหมือนกัน การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้านอนคือช่วงสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม และตื่นตอนตีห้า หรือหกโมงเช้า คุณจะได้เวลานอนยาว ๆ 6-8 ชั่วโมง ตื่นเช้ามาก็จะสดชื่น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็ดีขึ้น พร้อมรับกับวันใหม่ ในตอนแรกนั้นยากเสมอ เพราะหลายท่านชินกับการนอนดึก ร่างกายเรามันปรับเวลาไปนอนดึกจนเป็นนิสัย แน่นอนว่าการจะเปลี่ยนมันนั้นต้องใช้เวลา ยิ่งถ้าช่วงเย็นคุณได้ออกกำลังกายมาแล้วก็จะดีมาก เพราะทำให้นอนง่ายขึ้น ก่อนนอนอาจจะอ่านหนังสือ จิมน้ำอุ่น ทำสมาธิ นักแกะ ฯลฯ พอลองได้นอนเร็วไปสักสัปดาห์ ร่างกายก็จะจำช่วงเวลาการนอนใหม่นี้ได้ และจะกลายเป็นนิสัยใหม่ไปเอง
เปลี่ยนนิสัยทางการเงิน รู้ใช้ รู้ออม เรื่องของการเงิน เป็นเรื่องใกล้ตัว ส่วนตัวสุด ๆ อีกเรื่องหนึ่ง ที่โคตรจะสำคัญ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังติดหล่มปัญหาการเงิน ยากจะแก้ไข มาลองปรับเปลี่ยนนิสัยทางการเงินโดยเริ่มจากการ "บันทึกรายรับ รายจ่าย" ซึ่งเป็นพื้นฐานให้เราเข้าใจสถานะทางการเงินของเราเอง วางแผนตั้งแต่รับเงินเดือน ค่าจ้าง แล้วประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งเดือน เงินที่เราสามารถใช้ได้รายวัน เพื่อที่จะได้ควบคุมตนเองไม่ให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัว ปัจจุบันเราไม่ต้องมานั่งจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย ลงในสมุดอีกแล้ว มีแอพหลายตัวที่สามารถทำได้ดี มีการแยกประเภทการใช้จ่ายให้เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ พอครบเดือนเราสามารถดูได้ว่าเราใช้จ่ายในแต่ละประเภทเป็นอย่างไร นำมาปรับเปลี่ยนนิสัยการใช้เงินในวันต่อ ๆ ไปได้ ในระยะยาว เราจะรู้จักการใช้เงินอย่างมีเหตุผล และเริ่มต้นแบ่งเงินเก็บ เงินออม รวมถึงการลงทุนเพื่อวันเกษียณของเราได้อีกด้วย