วันนี้มาชวนเพื่อน ๆ ลงทุนในกองทุนรวมแบบ LTF และ RMF เพื่อประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี นอกจากนั้นในปลายทางของการถือกองทุน ตัวกองทุนเองอาจเพิ่มมูลค่าเป็นส่วนต่างที่มากกว่าเงินฝากประจำหลายเท่า เหมือนกับการ "ให้เงินทำงานแทนเรา" ประมาณนั้น สนใจกันแล้วล่ะสิ มาดูรายละเอียดกันค่ะ
LTF หรือ Long Term Equity Fund คือ "กองทุนรวมหุ้นระยะยาว" เป็นกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้น โดยทางการสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง LTF ขึ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันที่จะลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อมีผู้ลงทุนขนาดใหญ่หลาย ๆ รายก็จะส่งผลให้เกิดเสถียรภาพในตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนใน LTF ก็จะได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีได้อีกทางหนึ่งด้วย
RMF หรือ Retirement Mutual Fund คือ "กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ" เป็นกองทุนรวมประเภทส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาวสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ คล้าย ๆ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(Provident Fund) ของภาคเอกชน และกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ(กบข.) (Government Pension Fund) ของข้าราชการ ตัว RMF นี้สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
ทั้ง LTF และ RMF ต่างก็มีเงื่อนไข ข้อเด่น ข้อด้อย แตกต่างกันไป เรามาทำเป็นตารางเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ดีกว่านะคะ
LTF
|
RMF
|
ไม่มีขั้นต่ำ
|
ลงทุนขั้นต่ำ 3% ของเงินได้ในแต่ละปี หรือ 5,000 บาท แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า
|
ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี
|
ต้องลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่าปีละ
1 ครั้ง หากจะระงับการซื้อ ต้องไม่เกินกว่า 1 ปี เว้นปีใดที่ไม่มีเงินได้ ก็ไม่ต้องลงทุน
|
ถืออย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน
|
การขายหน่วยลงทุนได้เมื่ออายุไม่ต่ำกว่า
55 ปี และลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อครั้งแรก (ถ้าปีไหนไม่ได้ซื้อก็ไม่นับ)
|
สามารถลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง
สูงสุดไม่เกิน 15 % ของเงินได้ในปีนั้น แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
|
สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง
สูงสุดไม่เกิน 15%
ของเงินได้ในปีนั้น และเมื่อรวมเข้ากับ กบข.
และประกันชีวิตแบบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
|
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องยื่นแบบเสียภาษีประจำปีบุคคลธรรมดา การวางแผนซื้อ LTF และ RMF ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการออมเงินพร้อม ๆ กับลดหย่อนภาษีไปในตัว หากเราเลือกกอง LTF และ RMF ดี ๆ เราก็มีโอกาสรับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีกว่าเงินฝากประจำเสียอีก บางกองให้ผลตอบแทนเกิน 10 % ต่อปีด้วยอ่ะ .. คือดีงาม
ก่อนจะซื้อ LTF และ RMF ควรลองคำนวณภาษีเงินได้ของคุณก่อน จะได้รู้ว่าจะต้องซื้อเท่าไหร่ จะได้เตรียมเงิน บริหารเงินได้ลงตัว หรือจะซื้อแบบทยอยซื้อเป็นรายเดือนก็ได้ เดี๋ยวนี้การซื้อกองทุนสะดวกกว่าก่อนมาก ๆ เพียงเปิดบัญชีกองทุนกับธนาคาร ก็สามารถซื้อกองทุนผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนได้เลย จะตั้งให้หักบัญชีรายเดือนก็ยังได้ ลงทุนขั้นต่ำ 500 - 1,000 บาท ง่ายมั่ก ๆ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนได้แบบรายวันอีกด้วยนะ(นี่ก็เปิดดูทุกวันก่อนนอนเลย 55)
ต้องเข้าใจก่อนนะว่ากอง LTF และ RMF เป็นการลงทุนในระยะยาว คือต้องถือครองกันเป็น 10 ปี จึงจะเห็นผลตอบแทนที่ดีงาม(ที่เห็นผลทันทีก็คือการลดหย่อนภาษี) ไปลองดูผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนดูได้ ถ้าเกิน 10 ปี ยังไม่เห็นกองไหนขาดทุนเลยนะ เราทยอยซื้อ ทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญอย่าไปทำผิดเงื่อนไข เช่น ขายก่อนเวลาที่กำหนด , ซื้อเกินสิทธิ ฯลฯ เพราะจะทำให้เราต้องเสียภาษีย้อนหลังวุ่นวายมาก
แล้วจะซื้อ LTF หรือ RMF อันไหนดีกว่ากัน ? จริง ๆ ควรจะมีทั้งสองแบบนั่นแหละค่ะ ถ้ามีกำลังซื้อได้โดยไม่เดือดร้อน ก็จัดไปเลย แต่ละกอง แต่ละแบบ มันก็มีฟังค์ชั่นที่แตกต่างกัน มีข้อเด่น ข้อด้อย กันคนละแบบ เปรียบเทียบเหมือนเราปลูกต้นไม้ ถ้า LTF เป็นมะม่วง แล้ว RMF เป็นต้นสัก เราก็คงไม่ปลูกเฉพาะมะม่วง หรือ ต้นสัก เพียงอย่างเดียวหรอกจริงมั๊ย
อ้อ .. ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการซื้อกองทุน LTF แล้วนะจ๊ะ ปีหน้าจะมีกองทุนรูปแบบใหม่มาแทน LTF ซึ่งจะให้สิทธิการลดหย่อนภาษีคล้าย ๆ กัน ไว้จะเอามาเล่าสู่กันฟังอีกทีค่ะ
by ... admy
อ่านข้อกำหนด รายละเอียด LTF และ RMF
อ่านเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการออมเงิน และ Personal Finance
ออมเงินล้าน ฉบับมนุษย์เงินเดือน .. คุณก็ทำได้
เส้นทางการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีคุณภาพ
กองทุนลดหย่อนภาษี LTF และ RMF จะซื้อกองไหนดี ?