กองทุนลดหย่อนภาษี LTF และ RMF จะซื้อกองไหนดี ?

Sent
0

วันนี้มาชวนเพื่อน ๆ ลงทุนในกองทุนรวมแบบ LTF และ RMF  เพื่อประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี  นอกจากนั้นในปลายทางของการถือกองทุน ตัวกองทุนเองอาจเพิ่มมูลค่าเป็นส่วนต่างที่มากกว่าเงินฝากประจำหลายเท่า   เหมือนกับการ "ให้เงินทำงานแทนเรา" ประมาณนั้น  สนใจกันแล้วล่ะสิ  มาดูรายละเอียดกันค่ะ

     LTF หรือ Long Term Equity Fund  คือ "กองทุนรวมหุ้นระยะยาว"  เป็นกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้น โดยทางการสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง LTF ขึ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันที่จะลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์  เมื่อมีผู้ลงทุนขนาดใหญ่หลาย ๆ รายก็จะส่งผลให้เกิดเสถียรภาพในตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนใน LTF ก็จะได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีได้อีกทางหนึ่งด้วย

     RMF หรือ Retirement Mutual Fund  คือ "กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ"  เป็นกองทุนรวมประเภทส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาวสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ  คล้าย ๆ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(Provident Fund) ของภาคเอกชน และกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ(กบข.) (Government Pension Fund) ของข้าราชการ   ตัว RMF นี้สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

     ทั้ง LTF และ RMF  ต่างก็มีเงื่อนไข  ข้อเด่น ข้อด้อย แตกต่างกันไป  เรามาทำเป็นตารางเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ดีกว่านะคะ

LTF
RMF
ไม่มีขั้นต่ำ
ลงทุนขั้นต่ำ 3% ของเงินได้ในแต่ละปี หรือ 5,000 บาท แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า
ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี
ต้องลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง หากจะระงับการซื้อ ต้องไม่เกินกว่า 1 ปี  เว้นปีใดที่ไม่มีเงินได้ ก็ไม่ต้องลงทุน
ถืออย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน
การขายหน่วยลงทุนได้เมื่ออายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี และลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อครั้งแรก (ถ้าปีไหนไม่ได้ซื้อก็ไม่นับ)
สามารถลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15 % ของเงินได้ในปีนั้น แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีนั้น และเมื่อรวมเข้ากับ กบข. และประกันชีวิตแบบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

     ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องยื่นแบบเสียภาษีประจำปีบุคคลธรรมดา การวางแผนซื้อ LTF และ RMF  ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการออมเงินพร้อม ๆ กับลดหย่อนภาษีไปในตัว  หากเราเลือกกอง LTF และ RMF ดี ๆ เราก็มีโอกาสรับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีกว่าเงินฝากประจำเสียอีก  บางกองให้ผลตอบแทนเกิน 10 % ต่อปีด้วยอ่ะ .. คือดีงาม

     ก่อนจะซื้อ LTF และ RMF ควรลองคำนวณภาษีเงินได้ของคุณก่อน  จะได้รู้ว่าจะต้องซื้อเท่าไหร่  จะได้เตรียมเงิน บริหารเงินได้ลงตัว  หรือจะซื้อแบบทยอยซื้อเป็นรายเดือนก็ได้  เดี๋ยวนี้การซื้อกองทุนสะดวกกว่าก่อนมาก ๆ เพียงเปิดบัญชีกองทุนกับธนาคาร  ก็สามารถซื้อกองทุนผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนได้เลย   จะตั้งให้หักบัญชีรายเดือนก็ยังได้  ลงทุนขั้นต่ำ 500 - 1,000 บาท  ง่ายมั่ก ๆ  นอกจากนี้ยังสามารถติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนได้แบบรายวันอีกด้วยนะ(นี่ก็เปิดดูทุกวันก่อนนอนเลย 55)

     ต้องเข้าใจก่อนนะว่ากอง LTF และ RMF เป็นการลงทุนในระยะยาว  คือต้องถือครองกันเป็น 10 ปี  จึงจะเห็นผลตอบแทนที่ดีงาม(ที่เห็นผลทันทีก็คือการลดหย่อนภาษี)  ไปลองดูผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนดูได้  ถ้าเกิน 10 ปี  ยังไม่เห็นกองไหนขาดทุนเลยนะ   เราทยอยซื้อ ทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ  ที่สำคัญอย่าไปทำผิดเงื่อนไข เช่น ขายก่อนเวลาที่กำหนด , ซื้อเกินสิทธิ ฯลฯ เพราะจะทำให้เราต้องเสียภาษีย้อนหลังวุ่นวายมาก



     แล้วจะซื้อ LTF หรือ RMF  อันไหนดีกว่ากัน ?  จริง ๆ ควรจะมีทั้งสองแบบนั่นแหละค่ะ  ถ้ามีกำลังซื้อได้โดยไม่เดือดร้อน ก็จัดไปเลย   แต่ละกอง แต่ละแบบ มันก็มีฟังค์ชั่นที่แตกต่างกัน  มีข้อเด่น ข้อด้อย กันคนละแบบ   เปรียบเทียบเหมือนเราปลูกต้นไม้  ถ้า LTF เป็นมะม่วง แล้ว RMF เป็นต้นสัก  เราก็คงไม่ปลูกเฉพาะมะม่วง หรือ ต้นสัก เพียงอย่างเดียวหรอกจริงมั๊ย

     อ้อ .. ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการซื้อกองทุน LTF แล้วนะจ๊ะ  ปีหน้าจะมีกองทุนรูปแบบใหม่มาแทน LTF ซึ่งจะให้สิทธิการลดหย่อนภาษีคล้าย ๆ กัน  ไว้จะเอามาเล่าสู่กันฟังอีกทีค่ะ

by ... admy 

อ่านข้อกำหนด รายละเอียด LTF และ RMF

อ่านเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการออมเงิน และ Personal Finance
     ออมเงินล้าน ฉบับมนุษย์เงินเดือน .. คุณก็ทำได้
     เส้นทางการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีคุณภาพ
     กองทุนลดหย่อนภาษี LTF และ RMF จะซื้อกองไหนดี ?

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)