ตามที่ปรากฎเป็นข่าวกรณี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้กระทำการอันนอกอำนาจหน้าที่ตนเอง ในการลงพื้นที่ อ.กะรน จ.ภูเก็ต ถ่ายคลิปสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมเจ้าของอาคารที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอน แต่ยังไม่มีการดำเนินการรื้อถอน อีกทั้งตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจในคลิปว่าตนลงพื้นที่แล้วไม่มาดูแล พร้อมทั้งใช้กิริยาวาจาที่วิญญูชนทั่วไปก็ทราบได้ทันทีว่า กร่าง , ข่มขู่ , ตะคอก ไม่ใช่กิริยาวาจาปกติที่มนุษย์เขาใช้กัน
แม้เจ้าตัวจะออกมายืนยันว่าเป็นคนพูดเสียงดัง แต่ขอถามหน่อยว่าเคยใช้กิริยาวาจาอย่างนี้ กับ พลเอกประยุทธ หรือ พลเอกประวิตร บ้างหรือไม่ ถ้าไม่ ก็แสดงว่าจะใช้กับคนที่ต่ำต้อยกว่าอย่างนั้นหรือ
ต้องชื่นชนท่านรองผู้กับกับการในคลิปจริง ๆ มีไม่กี่ครั้งที่สังคมเกือบ 100 % จะออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจตำรวจ แสดงให้เห็นว่าตำรวจท่านนี้นั้นมีความอดทนอดกลั้น มีมารยาท น่าจะได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว และสถาบันมาเป็นอย่างดี
สังคมตั้งคำถามกับพฤติกรรมของ นายสิระ ว่าส่อที่จะขัดต่อ มาตรา 185 ของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นี้หรือไม่ มาดูข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกันครับ
ม.185 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทําการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การปฏิบัติราชการหรือการดําเนินงานในหน้าที่ประจําของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
(2) กระทําการในลักษณะที่ทําให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือให้ความเห็นชอบในการจัดทําโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นการดําเนินการในกิจการของรัฐสภา
(3) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตําแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตําแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจําและมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น(รัฐธรรมนูญ 60)
จากบทบัญญัติมาตรา 185 ดังกล่าว จะพิจารณาแล้วเห็นได้ว่านายสิระ อ้างบ่อยครั้งในคลิปว่าเป็น ส.ส. นั่นคือการใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร กระทำการใด ๆ กันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซง การปฏิบัติราชการในหน้าที่ประจำของตำรวจ
แต่กรณีนี้จะเป็นไป เพื่อประโยชน์ของตนเอง ผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองต้นสังกัด หรือไม่ ? เพราะการนำคลิปมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน นายสิระ รับว่าเป็นการวางแผนของตนเอง ดังนั้นคงต้องมีความคาดหวังอะไรบางอย่างแน่นอน เนื่องจากหลังอัดคลิปนายสิระ ทราบแล้วว่าอาคารดังกล่าวอยู่ในกระบวนการศาลแล้ว ตนเอง หรือตำรวจ ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
ถ้าจะบอกว่าทำเพื่อประชาชน มีเรื่องร้องเรียนมา ก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่า เหตุใดจึงเลือกร้องเรียน ส.ส.หลักสี่ กทม. ในเรื่องอาคารที่ จ.ภูเก็ต และถ้ามีการร้องเรียนจริง นายสิระ ก็สามารถส่งเรื่องให้กับ ส.ส.พื้นที่ หรือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการต่อได้อยู่แล้ว นี่ลงไปพื้นที่เหมือนไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่ประการใด ทางพรรคต้นสังกัดก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งลงไป เป็นเรื่องส่วนตัว มันเลยยิ่งไม่สมเหตุผลเข้าไปอีก
ยิ่งนายสิระฯ บอกว่ากรณีนี้ตนถูกขู่ฆ่า ก็อยากจะถามต่อเหมือนกันว่า ถูกขู่ฆ่าอย่างไร มีหลักฐานหรือไม่ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้วหรือยัง ... เรื่องนี้ยิ่งพูด ก็ยิ่งไม่จบ มีคำถามตามมาเรื่อย ๆ ดูเหมือนนายสิระ จะพยายามสร้างราคาตนเองด้วยการอัดคลิปลงไปสั่งสอนตำรวจ สั่งสอนประชาชน ต้องดูกันยาว ๆ ครับ
ปล. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อเรา ... ก็อยากจะรู้เหมือนกันครับว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญโลกร้อน(ฮา) จะว่าอย่างไร
คนธรรมดา