ทุกวันนี้ กับสภาพเศรษฐกิจแบบ "รวยกระจุก จนกระจาย" หลาย ๆ คนมีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินออมที่มีก็น้อยนิด ไม่สามารถงอกเงยให้เก็บดอกผลได้อย่างเพียงพอ ดู ๆ แล้วอนาคตคงมีหนี้สินยันเกษียณแน่ ๆ
วันนี้ผมขอเสนอวิธีการออมเงินให้ถึงหลักล้านบาท ในแบบที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนก็สามารถทำได้ อาจใช้เวลาแตกต่างกันออกไปบ้าง ตามแต่กระบวนการ หรือเครื่องมือที่คุณเลือก และเมื่อคุณได้ 1 ล้านบาทแรกแล้ว การเก็บเงินออมเพิ่มเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า ก็ไม่ใช่เรื่องยาก มาดูกันครับ
การออมเงิน ก็เหมือนการลงทุนในรูปแบบหนึ่ง ถ้าเราเอาเงินไปฝากธนาคาร เราก็มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ธนาคาร โดยธนาคารก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับเรา หันมาดูดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบันไม่ถึง 2 % เก็บเงินแบบนี้ไม่ไหว เกษียณแล้วอาจยังมีเงินไม่ถึงล้าน เพราะฉะนั้นตัดเรื่องการฝากเงินกับธนาคารออกไปได้เลยครับ แล้วมีทางไหนเป็นตัวเลือกอีกบ้างนะ ?
การซื้อหุ้นกับสหกรณ์ออมทรัพย์ ในแวดวงราชการเกือบทุกที จะมีสหกรณ์ออมทรัพย์ของตัวเอง เราก็สามารถสมัครได้(คนนอกหน่วยเขา สมัครไม่ได้นะครับ) โดยให้หักเก็บเงินในจำนวนที่เท่า ๆ กันในแต่ละเดือน แล้วพอสิ้นปีเราก็จะได้ เงินปันผล ก็คือดอกเบี้ยที่สหกรณ์นั้น ๆ ดำเนินการจนได้กำไร แล้วเอามาแบ่งกับสมาชิกนั่นเอง เงินปันผล สหกรณ์จะอยู่ที่ประมาณ 4 - 7 % มาลองคิดเลขกันดูครับ ระหว่างการออมด้วยเงิน 2,000 บาท/เดือน กับ 6,000 บาท/เดือน ในระยะเวลาเท่า ๆ กัน และด้วยรูปแบบการออมแบบต่าง ๆ ผลลัพธ์จะแตกต่างกันขนาดไหน
ต้องอธิบายก่อนนะครับว่า ตามตารางข้างต้นนี้ เป็นการคิดแบบดอกเบี้ยทบต้น คือเมื่อคุณได้ดอกเบี้ยมาเท่าไหร่ คุณก็ต้องนำกลับไปใส่ในการออมรูปแบบนั้น ๆ ทันที เช่น สมมุติว่าปีนี้ได้ปันผลสหกรณ์มา 5,000 บาท คุณก็ต้องนำเงินนี้กลับไปซื้อหุ้นออมต่อทันที ไม่ใช่เอาดอกผลมาใช้จ่ายครับ
จะเห็นได้ว่าภายใน 10 ปี ด้วยการออมที่ถูกต้อง มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็สามารถมีเงินเก็บถึง 1 ล้านบาทได้ ในรูปแบบการเก็บเดือนละ 6,000 บาท 120 งวด นั่นคือเราลงเงินจริง ๆ ไป 720,000 บาท ที่เหลือคือดอกผล เป็นพลังแห่งดอกเบี้ยทบต้นครับ
การเก็บเงินกับสหกรณ์ หรืออย่างน้อยพันธบัตรรัฐบาล มันก็ดีอย่างนะครับ คือมันถอนออกมาใช้ยาก ถ้าจะถอนต้องทำหลายขั้นตอน อาจเสียผลประโยชน์ที่ควรได้จากดอกเบี้ยด้วย ถ้าสหกรณ์ฯ สามารถหักเงินเดือนไปเลยได้ ก็จะดีมาก คือถ้าปล่อยให้เงินมาอยู่กับเรา รอใช้เหลือแล้วค่อยเก็บ ส่วนใหญ่จะไม่เหลือไปถึงปลายเดือนแน่ ๆ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด 555
นอกจากสหกรณ์ออมทรัพย์แล้วก็ยังมี กบข.(กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ) ที่หลาย ๆ คนเป็นสมาชิกอยู่ นั่นก็ถือเป็นการออมเงินรูปแบบหนึ่งเช่นกัน ขั้นต่ำ 3 % ของเงินเดือน สูงสุด 15 % แล้วรัฐบาลช่วยเติมให้ด้วย 3 % เงินเราก็หักไปเขาก็เขาก็มีผู้บริหารกองทุน ไปบริหารให้ได้กำไรเพิ่ม ส่วนรายละเอียดไปหาอ่านเอาเองในเว็บไซต์ของ กบข. นะครับ
จะเห็นได้ว่าภายใน 10 ปี ด้วยการออมที่ถูกต้อง มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็สามารถมีเงินเก็บถึง 1 ล้านบาทได้ ในรูปแบบการเก็บเดือนละ 6,000 บาท 120 งวด นั่นคือเราลงเงินจริง ๆ ไป 720,000 บาท ที่เหลือคือดอกผล เป็นพลังแห่งดอกเบี้ยทบต้นครับ
การเก็บเงินกับสหกรณ์ หรืออย่างน้อยพันธบัตรรัฐบาล มันก็ดีอย่างนะครับ คือมันถอนออกมาใช้ยาก ถ้าจะถอนต้องทำหลายขั้นตอน อาจเสียผลประโยชน์ที่ควรได้จากดอกเบี้ยด้วย ถ้าสหกรณ์ฯ สามารถหักเงินเดือนไปเลยได้ ก็จะดีมาก คือถ้าปล่อยให้เงินมาอยู่กับเรา รอใช้เหลือแล้วค่อยเก็บ ส่วนใหญ่จะไม่เหลือไปถึงปลายเดือนแน่ ๆ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด 555
นอกจากสหกรณ์ออมทรัพย์แล้วก็ยังมี กบข.(กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ) ที่หลาย ๆ คนเป็นสมาชิกอยู่ นั่นก็ถือเป็นการออมเงินรูปแบบหนึ่งเช่นกัน ขั้นต่ำ 3 % ของเงินเดือน สูงสุด 15 % แล้วรัฐบาลช่วยเติมให้ด้วย 3 % เงินเราก็หักไปเขาก็เขาก็มีผู้บริหารกองทุน ไปบริหารให้ได้กำไรเพิ่ม ส่วนรายละเอียดไปหาอ่านเอาเองในเว็บไซต์ของ กบข. นะครับ
สำหรับท่านที่เป็นพนักงานอื่นที่ไม่มีสหกรณ์ออมทรัพย์ ก็ยังมีทางเลือกการออมอื่น ๆ ได้ครับ ไม่แน่อาจได้ผลตอบแทนดีกว่า 7% อีกนะครับ ตอนหน้ามาคุยต่อ
by .. Ecoman
อ่านเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการออมเงิน และ Personal Finance
ออมเงินล้าน ฉบับมนุษย์เงินเดือน .. คุณก็ทำได้
เส้นทางการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีคุณภาพ
กองทุนลดหย่อนภาษี LTF และ RMF จะซื้อกองไหนดี ?
by .. Ecoman
อ่านเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการออมเงิน และ Personal Finance
ออมเงินล้าน ฉบับมนุษย์เงินเดือน .. คุณก็ทำได้
เส้นทางการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีคุณภาพ
กองทุนลดหย่อนภาษี LTF และ RMF จะซื้อกองไหนดี ?