ถ้าจะกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้ ต้องบอกว่าสาหัสไปทุกหย่อมหญ้า ท่านทั้งหลายคงได้เห็นกับตาตัวเองจากการเดินตลาด เดินห้าง ที่จะเห็นว่าแผงค้า ร้านค้า ร้านเช่า ค่อย ๆ ทยอยหายไปอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวลงอย่างมาก ส่วนการจ้างงาน มีการทยอยปิดกิจการ ตามที่เห็นในหน้าข่าวแทบจะรายวัน รวมทั้งการลดจำนวนพนักงาน และการลดจำนวนชั่วโมงการทำงานลงเพื่อประหยัดต้นทุน ให้สอดคล้องกับการบริโภค
ด้านการส่งออก เมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา และถดถอย ผู้ซื้อในตลาดโลกก็ใช้จ่ายน้อยลง ไทยในฐานะฐานของการผลิตสินค้าให้โลก ทั้งภาคอุตสาหกรรม และการเกษตร ก็ได้รับผลกระทบชัดเจน ส่วนการนำเข้าสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ก็ลดลงเช่นกัน
หนี้ภาคครัวเรือนปี 61 ที่มีอัตราสูงสุดกว่า 12 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 78.6 % ต่อ GDP ถือเป้นสัดส่วนที่สูงมาก จนเริ่มน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะหนี้บ้าน รถ บัตรเครดิต คนจน คนชั้นกลาง หนี้ท่วม ในขณะที่คนรวย ชนชั้นนำ ยังคงสุขสบายและยิ่งรวยขึ้น ๆ สะท้อนความเหลื่อมล้ำระดับโลกที่ไม่ใช่ว่าจะได้มาเพราะโชคช่วย
การเติบโตทางเศรษฐกิจ ตัวเลข GDP ต่ำจากที่คาดการณ์ไว้มาก และลดลงมาเรื่อย ๆ สะท้อนสภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจประเทศไทย ถ้าเจาะดูรายตัวเลข จะเห็นว่าในส่วนที่เติบโต จะเป็นกลุ่มธุรกิจบางอย่างเท่านั้น
พอมาดูค่าเงินบาท ที่มีส่วนสำคัญต่อการค้าขายระหว่างประเทศ จะเห็นได้ว่าเฉพาะปีนี้ ค่าเงินบาทไทยเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่ามาถึง 7 % ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างเงินยูโร เกือบเท่าตัว แม้จะยังไม่หมดปี อันดับ 1 นี้ก็ไม่น่าเปลี่ยนแปลง
เงินบาทแข็งค่าขนาดนี้ มันส่งผลต่อการส่งออก และท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาจนถึงจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ก็ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรได้มากนัก
ภาวะเศรษฐิจย่ำแย่ขนาดนี้ ทุกตัวเลขบ่งบอกชัดเจน ไม่ทราบว่า ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลที่ผ่านมา 5 ปี ซึ่งมีนายกคนเดียวกัน คิดอ่านในการแก้ไขอย่างไร หรือจะเป็นดั่งคำพูดที่ว่า "คนจนหมดประเทศ" , "เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"(ตอนนี้มึงน่ะ อยู่หลังสุดแล้ว) ทุกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ไม่ได้วางโครงสร้างสำหรับการพัฒนาระยะยาว คิดอ่านแค่เดือนชนเดือน เงินงบประมาณที่มีอย่างจำกัด ก็เอาไปซื้อของฟุ่มเฟือยอย่างอาวุธ ยุทโธปกรณ์ เอาใจนายพลห้องแอร์ที่กินเงินเดือน 2 ทาง 3 ทาง ในขณะที่ชาวไทยทั่วประเทศกำลังลำบาก กำลังของเด็กหนุ่มที่จะเป็นแรงงานสร้างรายได้ให้ครอบครัว ก็ต้องเกณฑ์ทหารปีนึงเป็นแสนคน ส่วนหนึ่งก็เอาไปรับใช้นายพล ตัดหญ้าสนามกอล์ฟ เลี้ยงไก่ ฯลฯ เงินหมุนเวียนในค่ายทหารอีกเท่าไหร่ มีประเทศไหนทำกับทหารเกณฑ์แบบนี้บ้าง
แล้วปีหน้าจะเป็นอย่างไร ในเมื่อสงครามการค้าก็ยังไม่จบ เศรษฐกิจโลกก็ยังไม่ฟื้น ก็คงต้องบอกว่าคงไม่ต่างจากปีนี้ และแม้จะมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ภาคการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมก็ย้ายฐานออกจากไทยไปมาก ที่จะมาตั้งใหม่นั้นแทบไม่มี สินค้าเกษตรคู่แข่งเราก็มากขึ้น การท่องเที่ยวก็มีค่าเงินบาทเป็นอุปสรรค มองไปข้างหน้ามีแต่ปัญหา แต่ไม่ต้องห่วงครับ "ลุง" ยังอยู่กับเราอีกนานแสนนาน ...
ภาพจากรายการ คู่หูนักลงทุน 2 ธ.ค. 62
Ecoman