ดื่มเท่าไหร่ ยังไง จึงจะรอดจากเครื่องเป่าแอลกอฮอล์

Sent
นักดื่ม นักท่องราตรีทั้งหลาย ต้องระวังให้หนักแล้วนะครับ เพราะตอนนี้มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ คือถ้าไม่ยอมเป่าเครื่องวัด แต่ก่อนอาจแค่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท เดี๋ยวนี้ต้องคุมตัวฟ้องศาล บทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ !!  ดังนั้นวันนี้มาแชร์สาระการดื่มสุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กันดีกว่าครับ ว่าดื่มอย่างไร จึงจะรอดจากด่านกลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพ
     การตรวจวัดแอลกอฮอล์จากเครื่องเป่า หากค่าที่ได้เกินกว่า 50 mg%(มิลลิกรัมเปอร์เซน) จะถือว่า "เมาตามกฎหมาย" แม้บางคนจะเถียงว่า กรูไม่มาว  แต่ก็ถือว่าค่าดังกล่าวเป็นเกณฑ์ที่ใช้กันทั่วไป  แต่ที่สงสัยตามมาคือ ดื่มแค่ไหนถึงไม่เกิน 50 mg%  มาดูกันครับ ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่าง ๆ ดังนี้
          1. สุรา ประมาณ 1/4 แก้ว สำหรับเหล้าเพียว ๆ ไม่ผสม
          2. เบียร์ ประมาณ 2 กระป๋อง หรือ 2 ขวดเล็ก
          3. ไวน์ ประมาณ 1/2 แก้ว
     ปริมาณข้างต้นนี้เป็นขั้นต่ำที่จะปลอดภัยสำหรับการตรวจ ซึ่งอาจแปรผันได้ตามแต่ละสภาพบุคคล  แล้วก็ดื่มแค่อย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ ไม่ใช่ดื่มหมดทั้ง 3 อย่างตามปริมาณแนะนำ เกินแน่ 55    บางคนคงบ่นว่าประมาณข้างต้นนี้มันเด็ก ๆ  ก็จริงครับ  ถ้าอยากดื่มมากกว่านี้ ก็อย่าขับรถเอง ใช้แท็กซี่ หรือให้เพื่อนไปส่งดีกว่า



เทคนิคนักดื่ม
          1. ก่อนกลับอย่างน้อยสักครึ่งชั่วโมง เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเจือจางแอล์กอฮอล์ และให้เกิดการขับถ่ายออกทางปัสสาวะ  ระหว่างนั้นก็จะมีการระเหยออกจากลมหายใจไปส่วนหนึ่งด้วย
          2. อย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายอย่าง จะเหล้าก็เหล้า เบียร์ก็เบียร์  ตีกันมั่วจะคำนวนไม่ถูก เดี๋ยวจะเกิน 50 mg%   และอาจเกิดอาการปวดหัวในตอนเช้าได้
          3. ควรมีอาหารอยู่ในท้องก่อนดื่ม เพื่อลดการดูดซิมของแอลกอฮอล์ 
          4. นมเปรี้ยวไม่ช่วย  คือมีการส่งต่อความเชื่อตลก ๆ ว่านมเปรี้ยวจะลดปริมาณแอลกอฮอล์ ได้ ให้ทานก่อนตรวจ(เป็นแผนการขายของบริษัท ?) ผมว่าซาลาเปาดีกว่า เพราะจะได้ไม่หิวเวลาเข้าห้องขัง 55
          5. อย่าท้าชน  จะเคยเห็นกันบ่อย ๆ ไอ้เพื่อนที่แมร่ง เอะอะก็ หมดแก้ว ! หมดแก้ว !  ได้พวกนี้แหละจะพาเพื่อนเข้าคุก รึไม่ก็ตาย  วันหลังเจอพวกนี้บ้องหูเตือนสติมันหน่อย  รึไม่ก็ถามมันเลย มรึงเสียค่าปรับให้กรูมั๊ยสาด
          6. สอบถามทางร้านว่ามีเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์หรือไม่ หลายร้านมีประจำร้านไว้บริการลูกค้า เราก็ลองเป่าที่ร้านดูก่อนก็ได้ 

ถ้าโดนจับเมาแล้วขับ จะโดนอะไรบ้าง(กรณีจับคาด่าน ไม่ได้ชนใคร)
          1. หลังจากถูกจับแล้ว ก็เข้าไปนอนในห้องขังเลยครับ อาจจะได้โทรติดต่อญาติ หรือเพื่อน ๆ ให้มาเยี่ยม หรือประกันตัว อัตราค่าประกันเงินสดอยู่ที่ 20,000 - 40,000 บาท(ได้คืนหลังจากส่งฟ้อง)
          2. สอบปากคำตอนหายเมา ถ้ารับสารภาพจะส่งฟ้องภายใน 48 ชั่วโมง(ถ้าจับกลางคืน ส่วนมากก็ฟ้องตอนเช้าเลย) 
          3. ในวันเดียวกันก็ขึ้นศาล รับสารภาพก็ลงโทษเลย ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ ส่วนมากโทษจำจะรอลงอาญา มีค่าปรับประมาณ 10,000 บาท   หากเป็นผู้ขับขี่รถโดยสาร หรือรถบรรทุก อาจถูกจำคุกด้วย
          4. กรณีไม่ยอมเป่า กฎหมายใหม่ให้สันนิษฐานว่าเมา และต้องถูกดำเนินคดีเหมือนข้อ 1 - 3 ข้างต้น ค่าปรับอยู่ที่ 10,000 - 20,000 บาท
          5. อาจมีมาตรการอื่น ๆ ประกอบการลงโทษอีก เช่น คุมประพฤติ , ทำงานรับใช้สังคม , พักใบอนุญาติขับขี่ , เข้าอบรม ฯลฯ และจะมีประวัติอาชญากรรมติดตัวไปตลอดนะจ๊ะ


     กรณีดื่มแล้วขับ ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 – 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
     ดื่มแล้วขับ ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส โทษจำคุก 2 – 6 ปี ปรับ 40,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี
     ดื่มแล้วขับ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุก 3 – 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

     เห็นโทษตามกฎหมายกันแล้วนะครับ  แนะนำให้ดื่มแต่พอดี สนุกแต่พอดี  ตนเองไม่เดือนร้อน คนอื่นไม่เดือดร้อนครับ