ชัยชนะสกปรก กับ ความพ่ายแพ้ที่ขาวสะอาด

Sent
By -
จบกันไป สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา  เมื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์  บริพัตร แชมป์เก่า นำแบบม้วนเดียวจบ รักษาตำแหน่งไว้ได้อีกสมัย และจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ยึดกรุงเทพต่อไปอีก 4 ปี รวมกับของเก่าอีก 9 ปี เป็น 13 ปี  คะแนนดิบที่ได้ล้านสองแสนเศษ  ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์  ส่วนผู้แพ้ พล.ต.อ.พงศพัศ  พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงเกินล้านเช่นกัน  ถือว่าน่าประทับใจไม่น้อย  แม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งก็ตาม
          เบื้องหลังชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาแรงแซงโค้งสุดท้ายช่วง 7 วัน อันตราย  ที่จะไม่มีการทำโพล   แม้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศฯ จะมีคะแนนนำมาอย่างต่อเนื่อง และทำท่าจะทิ้งห่าง 7 - 15 %  พอมาเจอทีเด็ดการหาเสียงเชิงลบช่วงสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ
  • เผาบ้าน เผาเมือง  เป็นการเอาเรื่องในปี 2553 เข้ามาเล่น  แต่ล่าสุด ทั้งผู้ต้องหาที่ถูกจับศาลก็ยกฟ้อง และศาลแพ่งที่ให้บริษัทประกันภัย ชดใช้ค่าเสียหายก็อธิบายความได้อย่างชัดเจน
  • ทักษิณ - เพื่อไทย - เสื้อแดง ครองเมือง  หรือ การยึดเมืองหลวง  ผูกขาดการบริหาร  ทั้ง ๆ ที่ตอน นายอภิสิทธิ์ฯ เป็นนายกฯ ก็ไม่เห็นมีการพูดถึงประเด็นผูกขาด เพราะนายกฯ และ ผู้ว่า กทม. ก็พรรค ปชป. ด้วยกัน(มีผลงานอัปยศด้วยกันทั้งคู่)
  • จตุพร  พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. จะเป็นรองผู้ว่า  อันนี้ก็ทำให้คนที่ไม่ชอบ นปช.  แต่ชอบ พงศพัศฯ  ไม่กาเบอร์ 9  ทั้ง ๆ ที่ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย
          ทั้งหมดนี้เป็นวาทะกรรมที่ฝ่าย "ปากดี" หรือ "ดีแต่พูด" ถนัดนัก  เพราะใช้มาอย่างต่อเนื่องหลายยุค  เช่น ปรีดี ฆ่าในหลวง , จำลองพาคนไปตาย , บรรหารลูกต่างด้าว , ไม่เลือกเราเขามาแน่ , ระบอบทักษิณ ฯลฯ  เป็นการสร้างการเมืองในความเกลียดชัง หวาดกลัว  โดยที่ไม่ได้เน้นในเรื่องนโยบายการบริหาร  ถ้าทำให้ตัวเองดูดีไม่ได้  ก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมันดูแย่  และก็ใช้ได้ผลเสมอมาทุกยุค
          การหาเสียงแบบสกปรกนี้ ผู้สมัครทั้งสอง ไม่เคยนำมาใช้เลย  ตรงนี้ต้องชื่นชมในความเป็นสุภาพบุรุษ  ตัวผู้สมัครเองเน้นการหาเสียงเชิงสร้างสรรค์ และการนำเสนอนโยบาย เพื่อให้คนกรุงนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ
          พรรคเพื่อไทยเองก็มีประเด็นที่จะนำมาเล่นในเชิงลบได้มากมาย อาทิ ฆาตกร 99 ศพ , เอ๋ออารีน่า , น้ำท่วมปี 54 , ถุงทรายในท่อ , กล้องดัมมี่ , ต่อสัญญารถไฟฟ้า ฯลฯ  แต่ก็ไม่ได้ทำ   เพราะเห็นว่าคนกรุงน่าจะไม่เอาด้วยกับการสาดโคลนทางการเมือง  แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้  น่าจะเป็นบทพิสูจน์ถึงสติปัญญา และทัศนคติของคน กทม. ที่จะต้องนำไปวางยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

#buttons=(Ok, Go it!) #days=(20)

Our website uses cookies to enhance your experience. Check Now
Ok, Go it!