วันนี้ (10 ตุลาคม 2556) นางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบหารือกับนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ระหว่างการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ที่กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม
โดยเลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้กล่าวชื่นชมโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคของไทย เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่เริ่มมากว่า 10 ปี ในสมัยที่รายได้ต่อหัวของประชาชนยังอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก แต่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจุบัน เพราะสามารถดูแลคนไทยทั้งประเทศได้ จึงอยากให้ประเทศไทยได้แบ่งปันความรู้ในการบริหารจัดการโครงการดังกล่าวให้กับประเทศต่างๆ เพื่อจะได้ให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการเตรียมหารือระดับสูงกับผู้นำชาติในอาฟริกาช่วงต้นปีหน้า คงจะได้มีการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การการบริหารโครงการดังกล่าวให้กับประเทศในอาฟริกาไปปฏิบัติใช้ ขณะเดียวกันไทยยังได้ขยายความคุ้มครองการบริการสุขภาพไปยังแรงงานต่างด้าวอีกด้วย
ถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่สามารถเป็นต้นแบบในการดูแลสุขภาพประชาชนในประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี พัฒนาตนเอง พัฒนาประเทศชาติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้คนยากจนสามารถเข้าถึงการรักษาได้เท่ากับผู้มีรายได้ โดยทำให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน แม้จะเป็นคนต่างด้าวที่มาทำงานในประเทศก็ตาม
แรกเริ่มโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ถูกต่อต้านอย่างหนักจากพรรคประชาธิปัตย์ และหมอ เนื่องมาจากเป็นโครงการที่ทำให้โรงพยาบาลรัฐต้องทำงานกันหนักขึ้น และโรงพยาบาลเอกชนอาจจะเสียรายได้จากการรักษา และจะทำให้ประชาชนโดยเฉพาะคนจนได้ประโยชน์จากนโยบายโดยตรง ส่งผลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง มาจนถึงปัจจุบัน
ตอนนี้ไม่มีพรรคการเมืองไหน รัฐบาลไหน จะกล้าล้มเลิกโครงการนี้ แม้รัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ยังไม่กล้า ทำให้เห็นว่าถ้าของไม่ดีจริง คงอยู่มาจนถึงปัจจุบันไม่ได้แน่