คดีปราสาทพระวิหาร จบแบบปรองดอง แล้วม็อบจะจบแบบไหน ?

Sent
สรุปสาระคำพิพากษาของศาลโลก ที่ได้ตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อเย็นวันนี้(11 พ.ย. 56) โดยนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก  ในฐานะตัวแทนไทย ในการดำเนินการทางกฎหมายฝ่ายไทย  มีประเด็นที่สรุปได้ดังนี้   
  1. ศาลมีอำนาจพิจารณาตีความตามคำร้องกัมพูชา ในเรื่องการดูแลตัว ปราสาทพระวิหาร   
  2. บริเวณใกล้เคียงปราสาทโดยรอบ ให้ยึดตามคำตัดสินของศาลโลกในปี พ.ศ.2505  
  3. กัมพูชาไม่ได้รับตามคำร้องขอ กรณีเขตแดนพื้นที่ทับซ้อน   4.6 ตารางกิโลเมตร  และ พื้นที่บริเวณ ภูมะเขือ  ไม่ใช่ของกัมพูชา  
  4. ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดน  ส่วนพื้นที่เล็กๆ ที่มีการร้องขอของกัมพูชา กำลังมีการคำนวณกันอยู่   
  5. ศาลไม่ได้ระบุ  เส้นเขตแดนบนแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน  เป็นส่วนหนึ่งบนคำตัดสินที่ผูกพัน เมื่อ ปี พ.ศ. 2505 
  6. สุดท้าย ศาลแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันในการที่จะดูแลปราสาทพระวิหาร ในฐานะมรดกโลก
     ขณะที่ทางฟากฝั่งพรรค ปชป. ได้เตรียมระดมคนออกมาจำนวนมาก เพื่อหวังผลคดีที่น่าจะออกมาในลักษณะที่ไทยต้องเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม.  มาจุดเป็นประเด็น ยกระดับการชุมนุมต่อจากการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมฯ  พร้อมกับการลาออกจาก สส. ของ นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ กับพวกรวม 6 คน
     เมื่อคำตัดสินออกมาเป็นเช่นนี้แล้ว  เหมือนกับศาลโลก ได้สาดน้ำลงไปในกองไฟของพรรค ปชป.  เท่ากับว่าประเด็นร้อน ที่หวังจะนำมาขับไล่รัฐบาล  กลายเป็นไม่ร้อนแล้วซะงั้น ทั้ง พรบ.นิรโทษกรรมฯ และ คดีปราสาทพระวิหาร  แล้วม็อบของ ปชป. จะหามุกอะไรมาเล่นต่อ  หรือจะลงจอดอย่างไร  น่าติดตามเหตุผล และ ตรรกะ เป็นอย่างยิ่ง
     ปล. ประเด็นร้อนต่อไปน่าจะเป็นการปะทะกันระหว่างตำรวจกับมวลชน หรือไม่ก็มีระเบิดลงกลางกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อสร้างกระแส  ขอให้ฝ่ายรัฐเตรียมการให้พร้อมครับ

ภาพจากอินเตอร์เน็ต
Tags