กับคำตัดสินของ ศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณี พ.ร.บ.2 ล้านล้านฯ พอสรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้ครับ
วันนี้ (12 มี.ค.57 ) ตุลาการ ศาล รธน.ทั้ง 9 คนได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่มีกรอบเวลาการใช้เงิน 7 ปี แต่จะมีภาระหนี้สินที่ต้องใช้ทั้งเงินต้น-ดอกเบี้ยร่วม 50 ปี สรุปการวินิจฉัยโดยแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ
1. กระบวนตรากฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาล รธน.มีมติ 6 ต่อ 2 ว่ากระบวนการตรากฎหมายไม่ชอบ โดยมีการเสียบบัตรแทนกัน
2. เนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาล รธน.มีมติ เป็นเอกฉันท์ว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อ รธน.มาตรา 169 และ 170 (ซึ่งเป็นบทบัญญัติใน รธน.ที่อยู่ในหมวด 8 ที่ว่าด้วยเรื่องการเงินการคลังและการงบประมาณ ที่ว่าด้วยเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่เป็นเงินแผ่นดินที่จะต้องทำภายใต้กฎหมายที่กำหนดไว้เช่น กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย ไม่ใช่ออกมาในรูปแบบอย่างที่รัฐบาลออกร่างพ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าวออกมา )
มีผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ดังกล่าวตกไปทั้งฉบับ
เป็นอันว่าฝันที่จะได้นั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงก่อนตายของคนไทยหลายคน ก็ต้องรอไปนั่งเอาชาติหน้ากันแล้วครับ หรือไม่ก็ไม่เกิดประเทศอื่นครับ อย่าง ลาว เวียดนาม หรือพม่า อาจได้นั่งก่อนประเทศไทย มาดูความเห็นจากเพจต่าง ๆ กันบ้างครับ ว่าคนเขารู้สึกต่อคำตัดสินกันอย่างไรบ้าง
เห็นแล้วรู้สึกกันอย่างไรบ้างครับ กับองค์กรอิสระโครตคุณภาพ ใช้รถหรูไม่พอเพียง แต่ชี้หน้าบอกให้คนอื่นพอเพียง องค์กรพวกนี้มีมากมาย เกือบทั้งหมดมาจากการรัฐประหาร 49 และการแสดงออก หรือคำตัดสินต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องตลก และแปลกประหลาดในสายตาประชาคมโลก และคนไทยจำนวนมาก ทั้งเรื่อง การเลือกตั้ง สว. เป็นการถอยหลังลงคลอง , ไปทำถนนลูกรังให้หมดก่อนค่อยทำรถไฟความเร็วสูง , ปลด นรม. ด้วยข้อหาทำกับข้าวออกทีวี ฯลฯ ตอนนี้ไม่ต้องสงสัยแล้วครับ ว่าประเทศไทยเราถ้ายังมีองค์กรเหล่านี้อยู่ อีกหน่อยเราจะตามหลังพม่า หรือเกาหลีเหนือ แน่นอน
เห็นแล้วรู้สึกกันอย่างไรบ้างครับ กับองค์กรอิสระโครตคุณภาพ ใช้รถหรูไม่พอเพียง แต่ชี้หน้าบอกให้คนอื่นพอเพียง องค์กรพวกนี้มีมากมาย เกือบทั้งหมดมาจากการรัฐประหาร 49 และการแสดงออก หรือคำตัดสินต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องตลก และแปลกประหลาดในสายตาประชาคมโลก และคนไทยจำนวนมาก ทั้งเรื่อง การเลือกตั้ง สว. เป็นการถอยหลังลงคลอง , ไปทำถนนลูกรังให้หมดก่อนค่อยทำรถไฟความเร็วสูง , ปลด นรม. ด้วยข้อหาทำกับข้าวออกทีวี ฯลฯ ตอนนี้ไม่ต้องสงสัยแล้วครับ ว่าประเทศไทยเราถ้ายังมีองค์กรเหล่านี้อยู่ อีกหน่อยเราจะตามหลังพม่า หรือเกาหลีเหนือ แน่นอน