หลายภาคเศรษฐกิจออกมาแสดงทัศนะตรงกันหมด คือ ผลพวง ผลกระทบจากวิกฤติการเมือง โดยการชุมนุมของม็อบพรรคประชาธิปัตย์ โดยคนประชาธิปัตย์ เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ หลายแสนล้าน
โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น ที่ภาคท่องเที่ยวเป็นความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย พื้นที่ที่มีการชุมนุม คือกรุงเทพชั้นใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5-6 ดาว มีนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักมาพักทุกปี กลายเป็นสภาพ เกือบร้าง
ตัวเลขจาก ตรวจคนเข้าเมือง ที่ระบุว่า นักท่องเที่ยวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว 25 - 30 %
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง เงินจำนำข้าว ที่รัฐบาลค้างจ่ายกับชาวนา นั้นก็ถูกขัดขวางในทุกรูปแบบ จากม็อบชุดเดิม ที่ประกาศตัวว่าสงสารชาวนา ต้องการช่วยชาวนา แต่ขณะเดียวกันก็ขัดขวางการจ่ายเงินให้ชาวนา ทุกรูปแบบ ขัดขวางการประมูลข้าว ฯลฯ สารพัดจะทำ
เมื่อชาวนาไม่มีเงิน ภาคเศรษฐกิจระดับรากหญ้าก็หยุดนิ่ง การจับจ่ายใช้สอยแค่พอกิน ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งด้าน อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ก่อสร้าง ฯลฯ พลอยสะดุดไปด้วย เป็นผลกระทบลูกโซ่ เป็นวงกว้าง จนมีการประเมินว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจถึงขั้นติดลบ
ประกอบกับอภิมหาโครงการต่าง ๆ ที่เป็นนโยบาย หวังจะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ถูกสกัดขัดขวางโดยองค์กรอิสระอย่าง ตลก. ประเทศนี้คงไม่ได้เห็นรถไฟความเร็วสูงแน่ ตราบเท่าที่ยังมีถนนลูกรัง หรือ ตราบเท่าที่ ไดโนเสาร์ ยังคุมประเทศ กรวย ....
ประกอบกับอภิมหาโครงการต่าง ๆ ที่เป็นนโยบาย หวังจะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ถูกสกัดขัดขวางโดยองค์กรอิสระอย่าง ตลก. ประเทศนี้คงไม่ได้เห็นรถไฟความเร็วสูงแน่ ตราบเท่าที่ยังมีถนนลูกรัง หรือ ตราบเท่าที่ ไดโนเสาร์ ยังคุมประเทศ กรวย ....
นี่ยังมีเรื่องความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นักลงทุน ต่าง ๆ ต่อภาวะผันผวนทางการเมืองไทย ที่ไม่มีใครอยากเสี่ยงเอาเงินมาลงทุนกับประเทศที่ไม่ยึดหลัก ยึดกฎหมาย เอากฎหมู่ กฎกู เป็นใหญ่ หาความแน่นอนไม่ได้ ตอนนี้เม็ดเงินลงทุนกำลังไหลไป อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า
ไม่ทราบว่าม็อบประชาธิปัตย์จะนำพาประเทศไปทางไหน เพราะถึงจัดการนายกฯ ได้ แน่นอนว่าจะมีคนอีกฝั่ง อีกสี ออกมาแน่ และก็จะไม่จบ จะยิ่งพินาศ ย่อยยับไปอีก รู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังดันทุรัง ไม่รู้ว่า ประธาน กปปส. คิดอะไรอยู่ หือ ?