เทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2558 นี้ มีคำขวัญว่า "สติ วินัย น้ำใจ ปลอดภัยสงกรานต์ สืบสานประเพณี" โดยมีห้วงเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 - 15 เมษายน และ คณะรัฐมนตรีก็ได้ออกกฎเข้ม 8 ข้อห้าม รับสงกรานต์ 58 รณรงค์ใช้ขันเล่นน้ำตามประเพณี โดยมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 27 มี.ค.58 ร้อยเอก นายแพทย์ ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบวิถีปฏิบัติในการเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ตามแบบดั่งเดิมของไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ รวมทั้ง มอบหมายให้ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯ ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและสาธารณะได้รับทราบถึงระเบียบข้อห้ามดังนี้
- การแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ล่อแหลมโดยรณรงค์ให้ใส่ผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง หรือเสื้อลายดอก
- การห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณที่มีการจัดกิจกรรมงานสงกรานต์
- การห้ามเล่นน้ำที่มีสิ่งเจือปน แป้ง น้ำแข็ง และโฟม
- การห้ามใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงหรืออุปกรณ์เล่นน้ำที่อาจเกิดอันตรายโดยรณรงค์ให้ใช้ขันน้ำตามประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม
- การห้ามขับรถกระบะบรรทุกน้ำในการเล่นน้ำสงกรานต์ไปในที่ชุมชนหรือบริเวณจัดงาน
- การแสดงภาพลักษณ์ที่เหมาะสมในการเล่นน้ำสงกรานต์โดยรณรงค์ไม่ให้มีการแสดงหรือการเต้นที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย
- หากมีการจัดกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมประเพณีงานสงกรานต์ ขอให้จัดกิจกรรมที่สอดคล้องและส่งเสริมประเพณีไทย
- ขอให้มีการกำหนดเวลาการเล่นน้ำที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร และการเกิดอาชญากรรมในยามวิกาล
ก็ถือว่าเป็นกฎเข้ม ที่ออกโดย คณะรัฐมนตรีรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ยังไม่รู้ว่าจะมีบทลงโทษกันอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ น่าติดตาม เพราะประเพณีสงกรานต์นี้ถือเป็นจุดขายสำคัญของประเทศในอย่างหนึ่ง บรรดาขาวต่างชาติที่มาเที่ยวช่วงนี้ก็เพราะต้องการร่วมประเพณีในภาพแบบถือปืนฉีดน้ำเดินลุยกันไปทั้งถนน
แน่นอนว่าหลาย ๆ ข้อถ้าทำตามก็จะเกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนคนไทย แต่ถ้าส่งสัญญาณที่ผิดพลาดออกไป อาจกลายเป็นว่าไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวก็ได้ อันนี้ต้องมาชี้แจงและทำความเข้าใจกันอย่างมาก หวังว่าสงกรานต์นี้จะได้เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างไม่มากก็น้อย
ปล. สงกรานต์ไม่ได้มีแต่ในประเทศไทยแล้วนะครับ ในภูมิภาคนี้อย่างลาว กัมพูชา หรือแม้แต่สิงคโปร์ ก็เคยได้ยินว่ามีการจัดขึ้นลักษณะคล้ายกัน ระวังจะถูกชิงนักท่องเที่ยวไปหมดนะครับ