นับเป็นการแสดงออกในความไม่เห็นด้วยกับกระบวนการยุติธรรมไทย ของกลุ่ม แฮ็คเกอร์ ที่ชื่อว่า anonymous ต่อกรณีการตัดสินคดีชาวพม่า 2 คน ฆ่านักท่องเทียวชาวต่างชาติ 2 คนที่เกาะเต่า ซึ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
คดีนี้มีปัญหาตั้งแต่ช่วงต้นเลย ตั้งแต่การตรวจสถานที่เกิดเหตุ การเก็บพยานหลักฐาน การสอบสวน พยานวัตถุ พยานบุคคล ฯลฯ ซึ่งดูเหมือนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะโดนตำหนิมากที่สุด เพราะทำงานไม่เป็นมืออาชีพเท่าที่ควร มีประเด็นที่พลเมืองชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตุอย่างมากมาย ซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้
หลังจากศาลชั้นต้นตัดสิน พี่สาวของผู้ตายท่านหนึ่งก็แสดงออกถึงความไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมไทย โดยย้อนไปช่วงที่เกิดเหตุใหม่ ๆ มีการเสนอเงินให้ยุติคดี จนถึงขู่ฆ่า ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการประท้วงของชาวพม่าทั้งในไทย พม่า และเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกอีกหลายแห่ง
ถามว่าเหตุใดผู้คนในหลายพื้นที่ทั่วโลกจึงรู้สึกกับกระบวนการยุติธรรมไทยเช่นนี้ ?
การที่คนเราจะไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม มันต้องเกิดจากเหตุสะสม ไม่ใช่เกิดเฉพาะเพียงคดีนี้ แล้วจะออกมามีปฏิกิริยากันได้ขนาดนี้ เริ่มจากตำรวจ เป็นที่ทราบกันดีในสังคมว่าจะหาตำรวจที่ไม่ทุจริต ไม่รับสินบน ได้ยากเต็มที กลายเป็นวัฒนธรรมจนคิดว่าตัวเองทำได้ไม่ผิดไปแล้ว เรื่องการจับแพะก็ยังคงถูกกล่าวขานกันอยู่เนือง ๆ เหมือนเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจที่สามารถสั่งการให้ดำเนินคดีกับใคร จับใครก็ทำได้ ไม่ต้องดูหลักกฎหมายอะไร เช่นล่าสุด กรณีคนนั่งรถไฟไปตรวจสอบทุจริต หรือก่อนหน้านี้ ที่จับกุมออกข่าวใหญ่โต สุดท้ายยกฟ้องก็มีมากมาย เช่น คดีเผาเซ็นทรัลเวิร์ล , ผู้หญิงยิง ฮ. , ยิงวัดพระแก้ว ฯลฯ
ส่วนศาลไทย แม้จะไม่มีข้อครหาโดยตรง แต่บุคลากรที่ไปอยู่ตามหน่วยงาน องค์กรอิสระต่าง ๆ ก็สร้างความเสียหายให้กับวงการยุติธรรมไม่ใช่น้อย ทั้งเรื่อง จดหมายน้อยฝากแต่งตั้งตำรวจ , ตัดสินคดีเอาผิดย้อนหลัง , ให้ถนนลูกรังหมดก่อนสร้างรถไฟความเร็วสูง , ปล่อยคดีพรรค ปชป. ขาดอายุความ ฯลฯ มันสะท้อนถึงคุณภาพและมุมมองของบุคลากร และเบ้าหลอมที่สร้างคนเหล่านี้ขึ้นมา รวมทั้งการที่ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้อย่างอิสระ ก็ทำให้เกิดความแคลงใจกันไปอีก
นอกจากนี้ทั้งศาล อัยการ องค์กรอิสระต่าง ๆ มีกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม ในเรื่องระยะเวลาในการพิจารณา สามารถยืดขยายออกไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด สามารถคุ้มครองชั่วคราวได้เป็นปี ๆ หรือเลื่อนการสืบพยานหลายสิบครั้ง ก็ทำได้เรื่อย ๆ ไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน ทำให้เกิดความเสื่อมในองค์กร ดูเหมือนมีการเล่นพรรคเล่นพวก ไม่โปร่งใส ควรต้องมีการกำหนดกรอบเวลาในการพิจารณาคดีต่าง ๆ ให้ชัดเจน เป็นไปตามลำดับเวลา ไม่ใช่นึกจะเอาคดีไหนมาพิจารณาก่อนก็ได้ หรือยืดเวลาพิจารณาบางคดีออกไปไม่มีที่สิ้นสุดก็ได้ อย่างนี้สมควรต้องปฏิรูปทั้งกระบวนการโดยเร็ว
ปล. ไม่มีรายงานข่าวว่าเว็บของอัยการโดยด้วยหรือไม่ ยังไงก็อย่าลืมไปเยี่ยมเว็บของอัยการนะครับ 55