ยาสีฟัน รองเท้าแตะ และ เห็บหมา

Sent
0
หากจะกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลยุคเผด็จการ  แต่ละเรื่องที่หลุดออกมาจากปาก  ซึ่งไม่รู้ว่าผ่านกระบวนการคิดจากสมองหรือไม่ อย่างไร   แต่ละเรื่องล้วนแต่ทำให้คนที่คาดหวังต้องส่ายหัว   ไม่รู้ว่าประชาชนจะทนอยู่ในประเทศที่มีผู้นำอย่างนี้ได้อีกนานเท่าใด

     เริ่มจากเรื่องวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจของท่านผู้นำ ที่จะผลิตสิ่งของอุปโภค บริโภค ที่คนใช้ประจำวัน  ใช้แล้วหมดไปต้องซื้อใหม่อยู่เรื่อย ๆ อย่างเช่น ยาสีฟัน หรือ รองเท้าแตะ  เอาไปตีตลาดโลก  กระตุ้นการส่งออก  เกิดการจ้างงานสร้างรายได้

     ตรรกะความคิดแปลก ๆ อย่างนี้  ไม่ใช่จะมีเป็นครั้งแรก  ก่อนหน้านี้ก็ทำเรื่องตลาดน้ำข้างทำเนียบ  คุยฟุ้งทั้งที่มูลค่าทางเศรษฐกิจนิดเดียว   โลกทัศน์คับแคบ  แบบนี้อย่าว่าแต่บริหารประเทศให้เจริญเลยครับ  แค่เปิดร้านโชว์ห่วยก็ไม่รอดแล้ว

     อีกคนล่าสุดคือ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่เสนอโมเดลเศรษฐกิจไทย "เห็บสยาม"  คือเติบโตไปกับประเทศต่าง ๆ แต่ไม่ทรุดตัวไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือเราจะไปเกาะประเทศที่เติบโต เช่น จีน อินเดีย หรือแอฟริกาใต้ หากประเทศเหล่านี้โตเราจะโตตามไปด้วย กินจนเราอ้วนแต่เมื่อเกิดเศรษฐกิจขาลง เราจะย้ายไปโตกับประเทศอื่นแทน คือเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับทุกประเทศ ไม่ใช่เป็นคู่แข่ง

     คงเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับ "เห็บ" แล้วแน่ ๆ  เพราะเห็บ ไม่ได้เป็นพันธมิตร หรือให้การตอบแทนใด ๆ กับหมา  มันจะดูดเลือดหมา เติบโต และออกลูกหลานเกาะกินเลือดหมาไปเรื่อง ๆ จนกว่าหมาตัวนั้นจะตาย  แล้วมันจะหาหมาตัวใหม่เกาะกินต่อไป

     แล้วประเทศคู่ค้าเขาจะมองเราอย่างไร  เมื่อเราวางยุทธศาสตร์ประเทศเป็น "เห็บหมา" เสียแล้ว  ใครจะยอมให้ดูดเลือดไปฟรี ๆ 

     จริง ๆ มันไม่ควรเป็นยุทธศาสตร์เสียด้วยซ้ำ  เพราะเห็นหมา นั้นไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง  จะต้องอาศัยร่างสัตว์อื่นดูดกินเลือดตลอดไป(โครตน่ารังเกียจ)   ทำไมไม่วางยุทธศาสตร์ประเทศให้เข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ในระยะยาว



     สองความคิดของคนระดับผู้นำประเทศ และผู้นำข้าราชการกระทรวง  มันบ่งบอกถึงคุณภาพของการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการใช้ สมอง  ให้คิดในแบบที่ก้าวไปข้างหน้า  แบบมีวิสัยทัศน์ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันได้  

     ระบบทหาร ที่ทำตามคำสั่ง  ไม่ต้องถาม  ไม่ต้องคิด  หรือ ระบบราชการ ที่ทำงานไปวัน ๆ ก็ได้เงินเดือน  ไม่มีความเสี่ยงใด   ไม่ได้ว่าที่คน  แต่ว่าที่ระบบ  มันไม่เอื้อต่อการพัฒนา  จากที่เราเคยจะเป็นเสือแห่งเอเซีย  ตอนนี้กลายเป็น "เห็บหมา" แล้วหรือนี่ อนิจจา ...

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)