คนรุ่นใหม่ + โลกโซเชี่ยล = หลอกไม่ง่าย

Sent
0

การเลือกตั้งที่จะถึงในอีกไม่กี่วันนี้  นับว่าเป็นการแข่งขันต่อสู้กันอย่างดุเดือด เผ็ดมันยิ่ง  เพราะมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างค่อนข้างชัดเจน  คือฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และฝ่ายฝักใฝ่เผด็จการ   ความขัดแย้งนี้ยาวนานกว่า 10 ปี  พาประเทศไม่ใช่แค่ย่ำอยู่กับที่ แต่ถึงกับถอยหลังไปนับสิบปี  จากรัฐประหารปี 49 ถึงรัฐประหารปี 57   

     เกือบ 5 ปี ที่เผด็จการทหาร คสช. และเครือข่าย ยึดอำนาจบริหารประเทศ(ขอเวลาไม่นาน..)  ปรับโครงสร้างองค์กรอิสระโดยมีความเชื่อมโยงกับ คสช. แทบทุกองค์กร   เขียนรัฐธรรมนูญถึง 2 ครั้ง(ครั้งแรกแม่งเสร็จเร็วไป คว่ำแล้วเขียนใหม่ รับเงินเดือนกันพุงกาง) ครั้งหลังแถมคำถามพ่วง  ห้ามวิจารณ์เด็ดขาด  โดยให้มี สว. ที่แต่งตั้งโดย คสช. อีก 250 คน มาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี  ที่แต่งตั้งโดย ..... คสช. อีกเช่นกัน   นี่ยังไม่รวมระบบเลือกตั้งสุดประหลาด หนึ่งเดียวในโลก ที่ออกแบบมาเพื่อบางพรรคการเมือง

     ก่อนเลือกตั้งไม่กี่เดือน รัฐบาล คสช. ที่แต่งตั้งตัวเองเข้ามาบริหารประเทศ ก็ได้ออกนโยบายประชารัฐ  ถัดมาก็เกิดมีพรรคพลังประชารัฐ  ที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาล คสช. เป็นสมาชิก เป็นหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหาร  ซึ่งก็อันเชิญลุงตู่ มาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ทั้งหมดเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้เตรียมกันมาก่อน จริ๊ง ๆ(เสียงสูง)



     ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง  เราได้เห็นกลยุทธ ยุทธวิธีสกปรกมากมายบนหน้าสื่อ และโลกโซเชี่ยล  แต่ในยุคสมัยใหม่ ที่ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารกันได้ง่าย ๆ ตรวจสอบที่มาข้อมูล  โต้เถียงหักล้างกันอย่างมีเหตุผล ที่สำคัญชาวอินเตอร์เน็ต ช่างสังเกตุโครต ๆ  จะใส่ร้ายป้ายสี หลอกให้หลงเชื่อในข้อมูล ไม่ง่ายเหมือนก่อนแล้ว  มาดูเรื่อง ง่าว ๆ ที่พยายามหลอกชาวเน็ต  แต่สุดท้ายโป๊ะแตก กันครับ
  • พรรคพลังโฟโต้ชอป  ตัดต่อรูปกองเชียร์ ให้ดูหนาแน่น อบอุ่น โพสลงเพจตัวเอง  พอชาวเน็ตจับได้ก็ลบรูปไปในทันที
  •  สื่อเสี้ยมเปิดคลิปเสียงตัดต่อสุดกาก  ปลุกผีทักษิณ กะใช้ความเกลียดชังเอาชนะคู่แข่ง  ก็โดนชาวเน็ตอีกเช่นกัน  จับได้ว่าเอาคลิปสมัยสอนหนังสือนักเรียนมาตัดต่อ  แถมโดนหัวหน้าพรรคสีส้ม สอนจริยธรรมสื่อกลางรายการตัวเองอีก  เรียกว่าเสียหมาคาบ้าน ก็ไม่ผิด  ... พิธีกรหน้าเหลือ 3 นิ้วเลย
  • Blind Trust  คนนึงทำเพื่อความโปร่งใส  แต่อดีตนักการเงินแย้งแบบบอกข้อมูลไม่หมด  เลยเจอนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์สวนเข้าให้  จากนั้นชาวเน็ตก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเฟซของอดีตนักการเงินกันมากมายจนลบไม่ทัน

     นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคำพูด หลายการกระทำ  ในอดีตถูกอ้างอิง  ถึงมาตรฐานทางจริยธรรม หรือ หลักการ  เป็นปรากฎการณ์ "โลกอินเตอร์เน็ตไล่ล่าคุณ"  ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่เสียคนกันไปก็มาก  ที่เคยนึกว่าเป็นทองแท้  ที่แท้ก็ทองลอก  ถลอกปอกเปิกกันหมด  โดยเฉพาะ 3 นักกฎหมายเนติบริกร ขวัญใจเผด็จการ  ที่ปฏิวัติครั้งไหน ก็ต้องเรียกใช้  ฉีกทุกกฎหมาย ทุกหลักการในสากลโลก  เกิดเป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบไทย ๆ  หลังจากนี้ทุกมหาวิทยาลัยต้องยุบคณะนิติศาสตร์ทิ้งแล้วครับ  ตั้งคณะใหม่ให้ชื่อว่า คณะเนติบริกร  ศาสตร์กฎหมายเพื่อเผด็จการ  จบคณะนี้มีสิทธิได้ตำแหน่งในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นคณะร่างรัฐธรรมนูญ , สนช. , สว.ลากตั้ง , กรรมการปฏิรูป ฯลฯ  เพราะประเทศเรารัฐประหารเป็นประเพณีครับ

คนธรรมดา

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)