ใกล้เลือกตั้งเข้าไปทุกขณะ เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้รู้กันว่าใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย หรือฝ่ายฝักใฝ่เผด็จการ แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือมีความหวาดระแวงในการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระอย่าง กกต. ในทุกขั้นตอนของการจัดการการเลือกตั้ง เรามาดูกันว่า ทำไมจึงเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ได้
ที่มาของ กกต. ชุดนี้ เกิดจากการเซ็ทซีโร่ กกต. ชุดก่อน ตามคุณสมบัติในรัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งก็ร่างโดยคณะที่ คสช. แต่งตั้งขึ้นมา กำหนดเพิ่มจาก 5 เป็น 7 คน โดยมีสเปคเทพในรายละเอียด กระบวนการสรรหา ก็ผ่านมาแบบมีข้อกังขา ดู ๆ แล้วไม่มีแววเป็นงานกันซักคน มีเวลาเตรียมตัวมากมาย แต่แค่เลือกตั้งล่วงหน้า ปัญหาก็สารพัดจะเอ่ยแล้ว สรุป กกต. ทั้ง 7 มีที่มายึดโยงกับ คสช. ทั้งหมด (บรรดาศาลทั้งหลาย ได้ประโยชน์จากการปฏิวัติมาไม่รู้เท่าไหร่ ได้ขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทน ขยายโครงสร้าง เอาไปเป็นตำแหน่งต่าง ๆ อีกมากมาย)
ถัดจากที่มา ก็คำวินิจฉัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองคู่แข่ง คสช. มีการตัดสิทธิ์ ยุบพรรค ในแบบที่ตรรกะแปลก ๆ บางอย่างก็ตัดสินเองไม่นำขึ้นสู่ศาล เช่น พล.อ.ประยุทธ ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ฯลฯ
ท่าทีที่ไม่เอื้อต่อระบอบประชาธิปไตย ในเรื่องข้อกำหนดการหาเสียง การทำบัตรเลือกตั้งที่ลำบากทำ 350 แบบ การจำหน่ายสินค้าของพรรคการเมืองเพื่อระดมทุน ฯลฯ การประชาสัมพันธ์ที่น้อยมาก แทบไม่เห็นแคมเปญโฆษณา หรือการรณรงค์ถี่ ๆ เหมือนยุคก่อน
การจัดการที่ห่วยแตก ตั้งแต่การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าที่เว็บล่ม วันเลือกตั้งล่วงหน้าที่ใช้ลังกระดาษเป็นคูหา คนต่อแถวจนหมดเวลาก็ยังไม่ได้ใช้สิทธิ จดหมายเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรตีกลับ ฯลฯ คุณรู้ทั้งรู้ว่าหน่วยไหน คนลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เท่าไหร่ การเตรียมการแย่มาก สิทธิของประชาชนถูกพรากไป กกต. จะรับผิดชอบอย่างไร
หลาย ๆ เรื่องรวมกันก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น หมดศรัทธา จนถึงขั้นหวาดระแวง ไม่ไว้ใจ ว่าจะจัดการเลือกตั้งให้เป็นธรรม บริสุทธิ์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ยังมีอีกหลายขั้นตอนจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเลือกตั้งจะผ่านไปได้ด้วยดีมั๊ย , จะหาเรื่องสอยฝ่ายตรงข้าม คสช. จนจำนวน ส.ส. ไม่พอตั้งรัฐบาล หรือ จะตามยุบพรรคที่ดันชนะพรรคสนับสนุน คสช. หรือไม่ เป็นคำถามตัวโต ๆ จากพี่น้องประชาชน
นอกเหนือจาก กกต. แล้วยังมีองค์กรอิสระอีกมากมาย ที่ถูกแต่งตั้งโดยกลไก คสช. อาทิ กรรมการสิทธิมนุษยชน(ทั้งหมด) , ปปช.(เกินครึ่ง) , ปปง. , ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ทำให้การตรวจสอบการทำงานของ คสช. ไม่สามารถทำได้โดยความโปร่งใส เที่ยงธรรม เพราะเห็น ๆ กันอยู่ว่า มีผลประโยชน์เอื้อต่อกัน ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การล้มละลายทางความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ ที่ปราศจากความอิสระอย่างแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบผู้มีอำนาจอย่าง คสช. ได้ อีกทั้ง คสช. ยังมีไม้เด็ดคือมาตรา 44 ที่จะ "ทำอะไรก็ได้" ในประเทศนี้ ยิ่งใหญ่กว่าทุกอย่างแม้แต่รัฐธรรมนูญ หรือศีลธรรม ประกอบกับได้นิรโทษกรรมตัวเองลงไปในรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้วด้วย .... ถ้าไม่ผิดจะกลัวอะไร
นอกเรื่องนิดนึง พอดีไปเห็นคนให้ข้าวหมาจรจัดหลายสิบตัวริมถนน หมาฝูงนี้มันก็จงรักภักดีกับคนให้ข้าว ให้น้ำมัน แต่กับคนอื่นที่เขาผ่านไป ผ่านมา มันไล่กัดเขาซะงั้น เราควรจะทำไงกับหมาฝูงนี้ดีครับ ตอนนี้มันออกลูกเพิ่มมาอีก ขี้เยี่ยว เศษข้าว สกปรกเต็มถนน มีหนูท่อตัวใหญ่ ๆ โผล่มาอีก เวร
มาดูงบประมาณที่ กกต. ใช้ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งครับ มันสะท้อนให้เห็นว่า เงินไม่ได้มีสัดส่วนต่อความเชื่อมั่นของประชาชนแต่อย่างใด
มาดูงบประมาณที่ กกต. ใช้ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งครับ มันสะท้อนให้เห็นว่า เงินไม่ได้มีสัดส่วนต่อความเชื่อมั่นของประชาชนแต่อย่างใด