MG eZS รถไฟฟ้า100% เปิดตัว 20 มิ.ย. นี้ !!

Sent
0

ช่วงปลายปี 2018 เป็นครั้งแรกที่มีข่าว MG eZS  และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Guangzhou Auto Show 2018 ประเทศจีน  นี่คือรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100 % ตัวแรกจากค่าย MG  เปิดตัวในจีนที่ราคาเริ่มต้น 600,000 บาท !   และมีข่าวว่าทาง MG ไทยแลนด์จะนำเข้ามาจำหน่ายในไตรมาส 3 ปี 2019 นี้ด้วย  มาดูสเปกของเจ้า MG eZS กันก่อนครับ

     MG eZS นั้น ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่ภายนอกก็มีดีไซน์ถอดแบบมาจาก MG ZS เครื่องยนต์เบนซิน ต่างกันเพียงแต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 110 kW (147.5 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.1 วินาที

     การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 6.5 ชม.  สามารถวิ่งได้ไกลถึง 335 กิโลเมตร (ผู้ผลิตเคลมว่า ถ้าวิ่งความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 428 กิโลเมตรเลยทีเดียว)  นอกจากนี้ยังรองรับ Fast Charging หรือ ชาร์จด่วน ซึ่งสามารถชาร์จจาก 0-80% ได้โดยใช้เวลาเพียว 30 นาทีเท่านั้น

     MG eZS 2019 ได้เปิดราคาอย่างเป็นทางการ กับตัวเลือกทั้งหมดมี 4 รุ่น ดังนี้

  • MG eZS E-Base ราคา 119,800 หยวน หรือ 599,000 บาท
  • MG eZS E-Lite ราคา 129,800 หยวน หรือ 649,000 บาท
  • MG eZS E-Plus ราคา 139,800 หยวน หรือ 699,000 บาท
  • MG eZS E-Pro ราคา 149,800 หยวน หรือ 749,000 บาท


     ส่วนราคาขายในไทยเปิดตัวที่ 1.19 ล้านบาท ! พร้อมรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.(สำหรับลูกค้า 1,000 คนแรก)   นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง กับรถยนต์พลังงานทางเลือก  ที่ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องภาษีเท่าที่ควร   ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศเขามีทิศทางที่ชัดเจนกับรถยนต์ไฟฟ้า  ถึงขนาดวางแผนการปรับเปลี่ยนรถยนต์บนท้องถนนให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ  ทั้งนี้เพื่อลดมลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่  , นำการผลิตพลังงานรูปแบบต่าง ๆ มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้ เช่น โซล่าเซล , กังหันลม ฯลฯ   ซึ่งทิศทางของโลกยังไงก็ต้องพัฒนาไปทางนี้อยู่แล้ว  การที่รัฐบาลขยับนโยบายช้าเช่นนี้  จะเสียจังหวะและโอกาสในการพัฒนาการใช้พลังงานในประเทศอีกด้วย




     ต่อไปอาจพัฒนาการใช้พลังงานสะอาดควบคู่กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อีกหลายทาง  เช่น นำพลังงานแสงอาทิตย์  หรือพลังงานลม มาชาร์จแบตฯ   ตามสถานีชาร์จต่าง ๆ อาจมีหลังคาเป็นโซลาร์เซลล์ มีกังหันลม ฯลฯ   เพื่อลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล   หรือไม่แน่ตัวรถยนต์เองต่อไปก็อาจมีหลังคา กระโปรงหน้า เป็นโซลาร์เซลล์  คราวนี้ต้องแย่งที่จอดกลางแดดกันแล้วล่ะครับ 555


แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)