รีวิวเงินฝากออมทรัพย์ดิจิตอล ธนาคารไหนดี ?

Sent
0

เข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด ดิจิตอลแบงกิ้ง  หรือธนาคารอิเลคทรอนิกส์ ที่ผู้ฝากอย่างเรา ๆ ไม่ต้องมีสมุดคู่ฝากอีกต่อไป  ใช้เพียงแอพพลิเคชั่นบนมือถือ  ก็สามารถควบคุมวงจรการเงินของเราได้แบบเรียลไทม์  ที่สำคัญคือเราจะได้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติหลายเท่า   อาจดีกว่าฝากประจำระยะสั้นด้วยซ้ำ    มาดูข้อดีของบัญชีออมทรัพย์ดิจิตอล กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง

  • ไม่มีสมุด  ก็ไม่ต้องกลัวสมุดหาย  เพียงแค่โหลดแอพฯ ของธนาคารไว้ในเครื่อง  ธนาคารบางแห่งถ้าคุณทำสมุดบัญชีหายต้องไปแจ้งความก่อนนะครับ โครตยุ่งยากเลย 
  • มีความปลอดภัย เพราะเมื่อเราผูกบัญชีกับอีเมล และตั้งรหัสผ่าน 6 หลักสำหรับการเข้าใช้  เราสามารถตั้งเตือนทางอีเมลได้ทุกครั้งที่มีการเข้าใช้แอพฯ ครับ
  • ทำธุรกรรมได้ทุกที่ ทุกเวลา  หมดปัญหาเรื่องการไปธนาคาร หรือไม่มีเงินสด
  • ธุรกรรมทางการเงินที่ไม่มีขั้นต่ำ และปลอดค่าธรรมเนียม  คุณจะโอนเงิน 5 บาท 10 บาท หรือโดนแบบมีเศษสตางค์ก็ได้  ไม่เสียค่าโอน หรือค่าธรรมเนียมใด
  • ประหยัดกระดาษ ทั้งตัวสมุดบัญชีเอง หรือใบฝาก ใบถอน บัตรคิว ฯลฯ
  • ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ปกติหลายเท่า  คิดดอกเบี้ยให้ทุกวัน
  • มีความคล่องตัวกว่าการฝากประจำ
  • ผู้เปิดบัญชีต้องเป็นคนไทย อายุ 15 ปี ขึ้นไป เปิดในนามบุคคลเท่านั้น ไม่มีการเปิดบัญชีร่วม 
  • เบิกถอน-ฝากเงินสดผ่านตู้ ATM ได้

     ข้อดีเพียบเลยใช่มั๊ยครับ  ทีนี้คงอยากรู้แล้วว่าจะเลือกเปิดบัญชีออมทรัพย์ดิจิตอลกับ ธนาคารไหนดี  มาดูรายละเอียดของแต่ละธนาคารที่ผมได้ไปศึกษามากันครับ


ธนาคารไทยพาณิชย์ SCB Easy saving
     ข้อดี ดอกเบี้ย 1.5 % (ไม่เกิน 5 ล้านบาท ส่วนที่เกินคิด 0.5 %)  คิดดอกเบี้ยทุกวัน รับดอกเบี้ยวันที่ 25 มิถุนายน และ 25 ธันวาคม / เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท ที่สาขา / ฝาก-ถอน-โอน ได้ตลอดเวลา ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
     ข้อเสีย คิดค่าธรรมเนียมเดือนละ 50 บาท เมื่อไม่เคลื่อนไหวบัญชีติดต่อกัน 12 เดือน และมียอดเงินคงเหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2,000 บาท / ปิดบัญชีภายใน 30 วัน เสียค่าธรรมเนียม 50 บาท


ธนาคารกสิกรไทย K-eSavings
     ข้อดี  ดอกเบี้ย 1.5 % คิดดอกเบี้ยทุกวัน(ไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนที่เกินคิด 0.5 %) รับดอกเบี้ยในเดือน มิถุนายน และ ธันวาคม / เปิดบัญชีไม่มีขั้นต่ำ ที่สาขา(กรณีเป็นลูกค้า K-Plus เปิดบัญชีผ่านแอพ ได้เลย) / ฝาก-ถอน-โอน ได้ตลอดเวลา ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง / ทำบัตรเดบิตคู่กับบัญชีได้
     ข้อเสีย คิดค่าธรรมเนียมเดือนละ 50 บาท เมื่อไม่เคลื่อนไหวบัญชีติดต่อกัน 12 เดือน และมียอดเงินคงเหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2,000 บาท


ธนาคารธนชาติ e-Savings
     ข้อดี ดอกเบี้ย 1.5 %  วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท  / คิดดอกเบี้ยทุกวัน รับดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง เดือนมิถุนายน และธันวาคม / เปิดบัญชีขั้นต่ำ 0 บาท ที่สาขา / ฝาก-ถอน-โอน ได้ตลอดเวลา ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
     ข้อเสีย ต้องมีบัญชีอื่นของธนาคารธนชาติคู่กัน / ใช้บริการหักบัญชีชำระค่าบริการต่าง ๆ ไม่ได้


ธนาคารยูโอบี  TMRW Savings
     ข้อดี  ดอกเบี้ย 1.6 % / ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน ไม่กำหนดเงินคงเหลือในบัญชี / แอพออมเงินในรูปแบบเกม ทำให้การออมเป็นเรื่องสนุก / ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดกันตามลิงค์ครับ
     ข้อเสีย อันนี้เป็นอันเดียวที่ไม่ได้ใช้เอง ดูจากรีวิว การเปิดบัญชี + ใช้แอพ มีปัญหาพอสมควร / หน้าเว็บมันออกแบบมาดูเหมือนเอาใจวัยรุ่น ผมคงอายุเกิน 55


ธนาคารทหารไทย TMB Me Save
     ข้อดี  ดอกเบี้ย 1.4 % + ดอกเบี้ยโบนัส 0.3 % = 1.7 % (ไม่เกิน 10 ล้านบาท) อ่านเงื่อนไข / แสดงดอกเบี้ยสะสมทุกวัน / รับดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง เดือนมิถุนายน และธันวาคม / เปิดบัญชีที่สาขา ไม่มีขั้นต่ำ ใช้บัตรประชาชนกับสมุดบัญชีธนาคารใดก็ได้ / ฟรีค่าธรรมเนียม ค่ารักษาบัญชี
     ข้อเสีย โอนเงินออกได้เฉพาะกับบัญชีที่ผูกไว้เท่านั้น , อายุต้อง 18 ปีขึ้นไป


ธนาคารซีไอเอ็มบี  ออมทรัพย์ดิจิตอล
     ข้อดี  ดอกเบี้ย 2 % ตั้งแต่ 5,000 - 50,000 บาท และดอกเบี้ย 1.6 % เกินกว่า 50,000 - 100,000 บาท(นอกนั้นให้ดอกเบี้ย 0.4 %) / คิดดอกเบี้ยทุกวัน จ่ายดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน / เปิดบัญชีที่สาขา ไม่มีขั้นต่ำ / ฟรีค่าธรรมเนียม ค่ารักษาบัญชี / ได้บัตรเดบิตฟรี / อายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป
     ข้อเสีย  อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลแค่ 30 กันยายน 62


     ส่วนธนาคารที่ไม่ได้มาแนะนำ เช่น ธนาคารกรุงเทพ , ธนาคารกรุงไทย , ออมสิน  เข้าไปดูแล้ว  บัญชีออมทรัพย์ ไม่เน้นเรื่องให้ดอกเบี้ยสูงเหมือนธนาคารที่แนะนำ  เลยไม่ได้เอามาโชว์   ส่วนอันที่น่าสนใจ แต่เป็นแบบมีสมุดคู่ฝาก  (ไม่ตรงตามคอนเซปครับ) สามารถทำธุรกรรมผ่านแอพได้ คือ

ธนาคารธนชาติ Ultra Savings
     ข้อดี ดอกเบี้ย 1.6 %  วงเงิน 20,000 - 50 ล้านบาท ต่ำกว่า 20,000 ให้ดอก 1 % / คิดดอกเบี้ยทุกวัน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน / เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท
     ข้อเสีย สามารถถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม การถอนเงินครั้งต่อไปในเดือนนั้น จะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 50 บาท

ธนาคารกรุงศรี เงินฝากออมทรัพย์มีแต่ได้
     ข้อดี ดอกเบี้ย 1.3 %(ไม่เกิน 50 ล้านบาท)  คิดดอกเบี้ยให้ทุกวัน รับดอกเบี้ยทุกเดือน / ไม่จำกัดจำนวนเงินคงเหลือในบัญชี / เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท ที่สาขา
     ข้อเสีย  ถอนได้ 2 ครั้ง/เดือน  หากเกินคิดค่าบริการครั้งละ 50 บาท



     แอพของธนาคารข้างต้นนี้ ที่สามารถซื้อกองทุนรวมผ่านแอพได้เลย เช่น กรุงศรี , ไทยพาณิชย์ , กสิกร  แต่ต้องไปกรอกข้อมูลความเสี่ยงที่สาขาก่อนนะครับ  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการออมเงิน  ให้มีทางเลือกหลาย ๆ ทาง  เป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี  ในแอพก็สามารถติดตามกองทุนรวมต่าง ๆ ได้ด้วย

     ก็เอามาฝากกันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการพักเงินในระยะสั้น  ดีกว่าไปกองในที่ที่ให้ดอกเบี้ยแค่ 0.5 %   ใครสะดวกธนาคารไหน ก็เลือกเอาได้เลยครับ  ตารางข้างล่างนี้เฉพาะเงินฝากออมทรัพย์แบบ e passbook นะครับ  คือไม่มีสมุดคู่ฝาก เน้นทำธุรกรรมผ่านแอพเท่านั้น

ธนาคาร
รูปแบบออมทรัพย์
ดอกเบี้ย
จ่ายดอก
ดูดอกเบี้ยรายวันผ่านแอพ
วงเงิน
ถอน/โอน
ฟรีไม่จำกัด
ไม่กำหนดเงินคงเหลือในบัญชี
ธนชาติ
e-Savings
1.5
ปีละ 2 ครั้ง
ไม่ได้
5 ลบ.
ใช่
กำหนด
ไทยพาณิชย์
SCB Easy saving
1.5
ปีละ 2 ครั้ง
ไม่ได้
ไม่เกิน 5 ลบ.
ใช่
กำหนด
กสิกรไทย
K-eSavings
1.5
ปีละ 2 ครั้ง
ไม่ได้
ไม่เกิน 1 แสนบาท
ใช่
กำหนด
ยูโอบี
TMRO Savings
1.6
(เงื่อนไขเยอะ)
ทุกเดือน
ไม่ได้
ไม่แจ้งในหน้าเว็บ
ใช่
ใช่
ทหารไทย
TMB Me Save
1.4
(ยอดฝากมากกว่าเดือนก่อน + 0.3)
ปีละ 2 ครั้ง
ได้
ไม่เกิน 10 ลบ.
ใช่
ใช่
ซีไอเอ็มบี
ออมทรัพย์ดิจิตอล
2
(ถึง 30 ก.ย. 62)
ทุกเดือน
ไม่ได้
500 – 100,000
ใช่
ใช่

หมายเหตุ    ถ้าดอกเบี้ยรับไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีครับ / ข้อมูล ณ วันที่ 20 กันยายน 2562

Ecoman

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)