เส้นทางการออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีคุณภาพ

Sent
0

ทุกวันนี้ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย นั่นหมายถึงสัดส่วนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีสัดส่วนที่มากกว่า 15 %  และการเกิดของประชากรจะลดลง  นั่นคือการขาดหายไปของคนในช่วงวัยทำงานที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ  ดังนั้นคนในวัยทำงานวันนี้  จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับการเกษียณอายุราชการอย่างมีคุณภาพ

     การเกษียณอายุราชการอย่างมีคุณภาพ นั้นหมายถึง ช่วงชีวิตที่ไม่ได้ทำงานประจำ  จะต้องไม่มีหนี้สินจำนวนมาก   มีเงินออม หรือเงินสำหรับใช้จ่ายรายเดือนเพียงพอไปอีกอย่างน้อย 20 - 30 ปี  เราต้องพึ่งตัวเองได้  ไม่ต้องหวังพึ่งพาลูกหลาน  อย่างน้อยต้องไม่เป็นภาระใครนะครับ  การจะทำเช่นนั้นได้  จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าหลายสิบปี  ไม่ใช่ไปเร่งทำเอาไม่กี่ปีก่อนเกษียณนะ

     การออมที่มีประสิทธิภาพ  ต้องได้ผลตอบแทนการออมที่ชนะเงินเฟ้อ  ถ้าคิดคร่าว ๆ ว่าเงินเฟ้ออยู่ที่ 2 % ต่อปี  เราต้องออมเงินหรือทำให้เงินที่มีนั้นมีดอกผลมากกว่าเงินเฟ้อ  ไม่เช่นนั้นมูลค่าเงินมันจะลดลงเรื่อย ๆ ครับ  ตัวอย่างง่าย ๆ คือ ราคาก๋วยเตี๋ยว ที่แต่ก่อนชามนึง 5 บาท 10 บาท ก็อิ่มได้  แต่เดี๋ยวนี้อย่างน้อยก็ต้อง 30 บาทขึ้นไป   นั่นหมายความว่าเงินเก็บที่เราตั้งใจไว้ว่าเพียงพอในอนาคต   อาจไม่พอหากนำเงินเฟ้อมาคิดรวมนะครับ

     การออมมีหลายรูปแบบ มองในอีกมุมหนึ่งมันก็คือการลงทุนเหมือนกัน เช่น เราเอาเงินไปฝากธนาคาร ธนาคารก็นำเงินเราไปปล่อยกู้อีกที โดยการันตีดอกเบี้ยให้เราตามที่กำหนด  ส่วนความเสี่ยงในการปล่อยกู้ ธนาคารจะเป็นผู้รับไว้เอง   ทีนี้มาดูผลตอบแทนของการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ กัน ในห้วงระยะเวลา 10 ปี  ตั้งแต่ 2551 - 2560


  • เงินฝากประจำ 1.73 %
  • ทองคำ 4.5 %
  • พันธบัตรรัฐบาล 5.15 %
  • หุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ 7 % 
  • หุ้น 11.61 % 
     จะเห็นได้ว่าการฝากเงิน แม้จะเป็นการฝากแบบประจำ ที่ได้ดอกเบี้ยสูงสุด ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้อยู่ดี  จะลองขยับมาออมทองคำ หรือพันธบัตรรัฐบาล  ก็ต้องลงทุนต่อครั้งด้วยเงินจำนวนมาก  อาจไม่สะดวกกับบางท่าน   จะลงในหุ้นสักตัว ก็กลัวความผันผวน และไม่มีความรู้  จะออมเงินในหุ้นสหกรณ์  ก็ต้องเป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ จึงจะซื้อหุ้นได้  แล้วเหลือทางเลือกอะไรให้กับเราบ้างนะ

     กองทุนรวม คือคำตอบของคุณแล้วล่ะครับ  เพราะคุณสามารถออมเริ่มต้นที่เดือนละ 1,000 บาท  ปัจจุบันมีกองทุนให้เลือกหลายหลายมาก ๆ เช่น กองทุนหุ้น , กองทุนอสังหาฯ , กองทุนตราสารหนี้ ฯลฯ  แต่ละกองทุนก็จะมีอัตราผลตอบแทน และความเสี่ยงแตกต่างกันไป  ตามแต่บุคลิกของท่านในฐานะผู้ลงทุน  โดยท่านจะต้องกรอกแบบสอบถามเพื่อสำรวจอัตราความเสี่ยงที่ท่านรับได้  แล้วเลือกกองทุนที่เหมาะกับตัวเรา ประมาณนั้น  ระดับผลตอบแทนก็มีเฉลี่ยตั้งแต่ 2 % ไปจนถึง 10 - 15 % ก็เป็นได้



     เดี๋ยวนี้การซื้อกองทุนก็ง่ายแสนง่าย  เริ่มจากท่านมีบัญชีธนาคารและบัตรประชาชน  ท่านก็เดินเข้าไปที่ธนาคารเจ้าของบัญชีแล้วบอกว่าจะขอเปิดบัญชีกองทุน  เจ้าหน้าที่ธนาคารจะทำเอกสารและให้ท่านกรอกแบบสอบถามข้างต้น  จากนั้นท่านก็โหลดแอพของธนาคารท่านลงในมือถือ  ผูกบัญชีกับแอพ แล้วก็สามารถซื้อกองทุนได้เลย  ....  แต่เดี๋ยวก่อน !!  แม้จะเป็นการซื้อกองทุนรวม  ท่านก็ต้องศึกษาให้ดีก่อนนะครับ เพราะท่านคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน"  ดังนั้น ตอนหน้าเราจะมาดูกันครับว่าจะเลือกกองทุนกันอย่างไรดีจึงจะลดความเสี่ยง และเหมาะกับตัวท่านอย่างที่สุด  โดยคาดหวังผลตอบแทนที่ดี ในระยะเวลาที่เหมาะสม   วันนี้ลาไปก่อนจ้า

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)