ทำมาหากิน : ดอกขจร & กระชายรากกล้วย

สำหรับพี่น้องเกษตรกรที่มองหาทางเลือกในการประกอบอาชีพในยุคที่ราคาผลผลิตต่าง ๆ ตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็น ข้าว อ้อย มัน ฯลฯ  ขอเสนอทางเลือกในการปลูกพืชไร่ที่ดูแลไม่ยาก  เก็บผลผลิตได้ในเวลาไม่นาน  ลงทุนไม่มาก  สามารถทดลองทำก่อนเพียงไร่เดียวก็ยังได้  มาดูกันครับ

ดอกขจร

     ผักขจร มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า สลิด ขจร (ภาคกลาง), ผักสลิด (นครราชสีมา), กะจอน, ขะจอน, สลิดป่า, ผักสลิดคาเลา, ผักขิก เป็นต้น  ขจร เป็นไม้เถาเลื้อยที่ปลูกง่าย สามารถเก็บดอกมารับประทานได้ทั้งปี  โดยเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา ช่วยบำรุงโลหิต แก้ท้องอืด ช่วยขับถ่าย เป็นต้น  สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู อาทิ ดอกขจรทอดไข่ทานกับน้ำพริกกะปิ , แกงส้ม , ผัดน้ำมันหอย , ลวก ฯลฯ

     การเก็บเกี่ยวผลผลิตสามารถเก็บได้ทุก ๆ 1 - 2 วัน  ราคาดอกตูมจะอยุ่ที่ 80 - 100 บาท/กิโลกรัม ส่วนดอกบานจะถูกกว่า 30 - 40 บาท  ถ้าในช่วงฤดูหนาว ผลผลิตมีน้อย ราคาจะขยับแพงขึ้นไปอีก 20 - 30 บาท/กิโลกรัม   อายุต้นของขจร สามารถอยู่ได้ 7 - 10 ปี เลยทีเดียว

กระชายรากกล้วย

     กระชายรากกล้วย เป็นไม้ล้มลุกไม่มีลำต้นบนดิน มีเหง้าใต้ดินซึ่งแตกรากออกไปเป็นกระจุกจำนวนมาก  เป็นพืชที่ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารโดยเฉพาะรากกระชาย ใช้เป็นเครื่องจิ้มหรือเป็นส่วนประกอบของน้ำพริกแกงต่าง ๆ  มีสรรพคุณทางยา อาทิ แก้ปวดท้อง มวนในท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด แก้กามตายด้าน เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร

     กระชายนั้น สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด โดยเป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดีไม่ท่วมขัง การปลูกกระชายจะต้องยกร่องให้ร่องกว้างประมาณ 1.5-2 เมตร ความยาวก็ตามพื้นที่ กระชายจะใช้ระยะปลูกห่างระหว่างต้น 5 ซม. แถวหนึ่งจะมี 30 ต้น หลังจากปลูกจะคลุมแปลงด้วยฟางเพื่อป้องกันหญ้าขึ้นและเพิ่มความชื้นให้กับแปลง  การดูแลก็ไม่ยุ่งยาก  ราคาผลผลิตก่อกิโลกรัมนั้นเป็นไปตามฤดูกาล มีตั้งแต่ 12 - 15 บาท ถึง 40 - 50 บาท ก็มี

 

     แม้ท่านที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร ก็สามารถปลูกทั้ง ขจร และ กระชาย ไว้ริมรั้ว หรือในแปลงเล็ก ๆ ไว้รับประทานเองก็ยังได้ครับ  ผักปลอดสารพิษริมรั้วของเราเอง  ประหยัดและสุขภาพดีไปด้วยทีเดียวเลย

ขอบคุณวิดีโอดี ๆ จาก มติชนทีวี