พื้นที่โดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ ประกอบด้วยทะเลสาบฟูจิทั้งห้า อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุและน้ำตกชิระอิโตะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน ที่ได้รับความนิยมของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามคุณจะสามารถเห็นมิสเตอร์ฟูจิ ได้เพียง 1 ใน 3 ของปีเท่านั้น เพราะเนื่องจากสภาพอากาศที่อาจเกิดฝนตก เมฆปกคลุม ถือว่าเป็นภูเขาที่ขี้อายพอสมควรครับ และทริปที่ผมไปก็เจอฝนปรอยเต็ม ๆ หนาวมาก
บริเวณที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นไปได้โดยรถบัส เป็นชั้นที่ 5 มีความสูงประมาณ 2,500 เมตร จะมีร้านขายของที่ระลึก และศาลเจ้า ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม ส่วนชั้นที่เหลือ คือ 6 - 10 นั้น จะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น มีการพักแรมบนเขา และมีที่พักคล้าย ๆ โรงแรมเล็ก ๆ สำหรับคนที่ต้องการเห็นพระอาทิตย์ยามเช้าบนฟูจิ
ร้านขายของที่ระลึก เข้าไปจะมีการแจกขนมชิ้นเล็ก ๆ และกระพรวนเป็นที่ระลึกฟรี มีขนมที่เป็นสัญลักษณ์ฟูจิเพียบเลย ต้องยอมรับเลยครับว่าคนญี่ปุ่นนี่เขาออกแบบ วาดเป็นการ์ตูนเก่งจริง ๆ ทำให้ของแต่ละอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าตรงหลังอาคารขายสินค้าของที่ระลึก ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะกันอีกด้วยครับ
อีกจุดหนึ่งที่จะพาเที่ยวคือศูนย์แผ่นดินไหว อยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟฟูจิสักเท่าไหร่ ตอนขากลับจะมีถนนอยู่ช่วงหนึ่งครับ เขาเรียกถนนดนตรี(มีป้ายบอกด้วย) ต้องเงียบและตั้งใจฟังจริง ๆ เพราะเขาจะทำผิวถนนเป็นลูกคลื่นเล็ก ๆ เวลาล้อรถผ่านไปจะให้เสียงแตกต่างกัน เหมือนเสียงดนตรีหน่อย ๆ ฟังแล้วหลอน ๆ 555
ศูนย์แผ่นดินไหว นี่ก็เหมือนจะบังคับทัวร์อยู่เหมือนกัน เพราะจะแวะให้ซื้อของฝากนั่นเอง โดยไปถึงก็จะมีไกด์ชาวไทยประจำศูนย์กันเลยทีเดียว คอยอธิบายถึงมาตรการการรับมือกับแผ่นดินไหวของชาวญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นนี้จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวบ่อยมาก มีห้องทดลองการสั่นสะเทือนระดับต่าง ๆ อีกทั้งทดสอบการหาทางออกจากอาคารกรณีเกิดแผ่นดินไหว แล้วไฟฟ้าดับหมด ต้องคลำออกอย่างไร ก็สนุกและได้ความรู้กันพอสมควร ถือเป็นองค์ความรู้ของชาวญี่ปุ่น ที่เขาปรับปรุงพัฒนากันมาตลอด เพราะเกาะญี่ปุ่น มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นปีละหลาย ๆ ครั้ง เขาสูญเสียกันมามากครับ
ศูนย์แผ่นดินไหวนี่เขาห้ามถ่ายรูปนะครับ และเนื่องจากที่คนไทยมาเที่ยวญี่ปุ่นกันมาก จึงมีการจ้างคนไทยมาเป็นผู้บรรยายที่นี่เลย เจ้าตัวมัสคอตของศูนย์ฯ คือตัวตุ่นน่ารัก ๆ ที่เห็นนี่แหละครับ
จากนั้นก็ถึงส่วนขายของ มีผลิตภัณฑ์ความงามของถ่านภูเขาไฟ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ แล้วก็มีน้ำมันสกัดจากปลาทะเลลึก คอลาเจน ฯลฯ ก็ซื้อกันคนละนิดคนละหน่อย ตามธรรมเนียม และยังมีขนมของฝากแพ็คเกจสวย ๆ ให้เลือกอีกด้วย
ปล. การทัวร์ซื้อของพวกนี้ ถือเป็นจุดที่ต้องแวะ เนื่องมาจากการจัดทัวร์ที่ราคาถูก ทางร้านค้าพวกนี้นี่แหละ ที่อุดหนุดค่าทัวร์ส่วนหนึ่ง ดังนั้นก็ไม่ต้องเสียอารมณ์ไปนะครับ ก็แวะเป็นเกร็ดความรู้กันเล็กน้อย บังคับแวะ แต่ไม่ได้บังคับซื้อ
ปล.2 ขอบคุณภาพภูเขาไฟฟูจิ จาก วิกิพีเดีย
เที่ยวญี่ปุ่น : ภูเขาไฟฟูจิ + ศูนย์แผ่นดินไหว
เที่ยวญี่ปุ่น : พระใหญ่ไดบุทสึ + พิพิธภัณฑ์ราเม็ง
เที่ยวญี่ปุ่น : สัมผัสมรดกโลก หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ศูนย์แผ่นดินไหว นี่ก็เหมือนจะบังคับทัวร์อยู่เหมือนกัน เพราะจะแวะให้ซื้อของฝากนั่นเอง โดยไปถึงก็จะมีไกด์ชาวไทยประจำศูนย์กันเลยทีเดียว คอยอธิบายถึงมาตรการการรับมือกับแผ่นดินไหวของชาวญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นนี้จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวบ่อยมาก มีห้องทดลองการสั่นสะเทือนระดับต่าง ๆ อีกทั้งทดสอบการหาทางออกจากอาคารกรณีเกิดแผ่นดินไหว แล้วไฟฟ้าดับหมด ต้องคลำออกอย่างไร ก็สนุกและได้ความรู้กันพอสมควร ถือเป็นองค์ความรู้ของชาวญี่ปุ่น ที่เขาปรับปรุงพัฒนากันมาตลอด เพราะเกาะญี่ปุ่น มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นปีละหลาย ๆ ครั้ง เขาสูญเสียกันมามากครับ
ศูนย์แผ่นดินไหวนี่เขาห้ามถ่ายรูปนะครับ และเนื่องจากที่คนไทยมาเที่ยวญี่ปุ่นกันมาก จึงมีการจ้างคนไทยมาเป็นผู้บรรยายที่นี่เลย เจ้าตัวมัสคอตของศูนย์ฯ คือตัวตุ่นน่ารัก ๆ ที่เห็นนี่แหละครับ
จากนั้นก็ถึงส่วนขายของ มีผลิตภัณฑ์ความงามของถ่านภูเขาไฟ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ แล้วก็มีน้ำมันสกัดจากปลาทะเลลึก คอลาเจน ฯลฯ ก็ซื้อกันคนละนิดคนละหน่อย ตามธรรมเนียม และยังมีขนมของฝากแพ็คเกจสวย ๆ ให้เลือกอีกด้วย
ปล. การทัวร์ซื้อของพวกนี้ ถือเป็นจุดที่ต้องแวะ เนื่องมาจากการจัดทัวร์ที่ราคาถูก ทางร้านค้าพวกนี้นี่แหละ ที่อุดหนุดค่าทัวร์ส่วนหนึ่ง ดังนั้นก็ไม่ต้องเสียอารมณ์ไปนะครับ ก็แวะเป็นเกร็ดความรู้กันเล็กน้อย บังคับแวะ แต่ไม่ได้บังคับซื้อ
ปล.2 ขอบคุณภาพภูเขาไฟฟูจิ จาก วิกิพีเดีย
บทความที่เกี่ยวข้อง
เที่ยวญี่ปุ่น : พระใหญ่ไดบุทสึ + พิพิธภัณฑ์ราเม็ง
