รัฐบาลเผด็จการทหารของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการบริหารประเทศจนเป็นที่ประจักษ์ เห็นหลาย ๆ คนสรรเสริญกันประมาณว่า ก่อนท่านเข้ามา เคยค้าขายแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พอท่านมาบริหารประเทศ ตอนนี้เริ่มขายของใหญ่ ๆ ขายบ้าน ขายรถ หมดแล้ว ....
นับตั้งแต่รัฐประหารปี 57 การทำงบประมาณของรัฐบาลเผด็จการทหาร ก็เป็นแบบขาดดุลมาตลอดทุกปี นั่นคือรัฐบาลมีการใช้จ่ายเงินมากกว่ารายได้ที่จัดเก็บได้ ยอดรวมถึงเดือน ก.พ. 61 ที่ผ่านมา คือ 6.46 ล้านล้านบาท ! (ข้อมูล
การจ่ายเงินงบประมาณอย่างมือเติบเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างซื้ออาวุธที่เกินความจำเป็น งบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไร้ผล การรั่วไหลของงบประมาณไปกับการทุจริตของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ความสามารถในการหาเงินนั้นไร้ประสิทธิภาพ แผนการเชิญชวนนักลงทุนที่ไม่เป็นผล การส่งออกติดลบ รวยกระจุก จนกระจาย กลายเป็นประเทศที่มีช่องว่างระหว่างคนรวย และคนจนมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก(ข้อมูลปี 59)
ทำให้การเงินการคลังของประเทศขาดดุลเพิ่มมากขึ้นในระดับ 41.3 % ของ GDP อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน รวม ๆ แล้วใน 4 ปี ใช้เงินในการบริหารประเทศกว่า 11 ล้านล้านบาท แต่ชาวบ้านไม่ได้รู้สึกว่าเม็ดเงินดังกล่าวตกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่แต่อย่างใด
ในภาคการเกษตร ล้วนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ราคาพืชผลส่วนใหญ่ตกต่ำ ทั้ง ข้าว ยางพารา อ้อย ฯลฯ ทำให้การค้าขายในระดับหมู่บ้าน ตำบล ซบเซา ส่งผลกระทบถึงธุรกิจขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ตามมาเป็นลูกโซ่
การจัดเก็บภาษีก็รีดกันอย่างเต็มที่ ขึ้นภาษีหลาย ๆ อย่าง และการตรวจสอบภาษีบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลต่าง ๆ ก็ละเอียดยิบ และยังแบะท่าว่าอาจจะขึ้น vat เป็น 8-10 % อีกด้วย
ในเม็ดเงินขนาด 6.46 ล้านล้านบาท นี่สามารถสร้างรถไฟความเร็วสูงสมัยรัฐบาลก่อนที่ใช้งบ 2.2 ล้านล้านบาท ได้สบาย ๆ ไม่รู้บรรดาพวกเป่านกหวีดที่เคยวิตกกังวลเรื่องหนี้สาธารณะที่จะต้องใช้หนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน มันไปตายที่ไหนกันหมดแล้ว รึเลิกตามการเมืองกันหมดโดยพร้อมเพรียงกัน ใครรู้จักช่วยสะกิดที