เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 61 มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 92 ปี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุม ครม. มีมติเห็นพ้องให้ปรับลดเงินเดือนของรัฐมนตรีทุกคนรวมตัวเขาด้วย 10% เพื่อเป็นการร่วมบรรเทาภาระการเงินของประเทศ โดย ดร.มหาเธร์ฯ เป็นผู้เสนอแนวคิดลดเงินเดือนเข้าสู่ที่ประชุมเอง ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับในช่วงที่เขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2523
ผู้นำมาเลเซียกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันจะพยายามทำทุกวิถีทางตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อลดหนี้สาธารณะของประเทศ ที่ในตอนนี้สูงเกินกว่า 1 ล้านล้านริงกิต ( ราว 8.2 ล้านล้านบาท ) คิดเป็น 65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี )
..............................................
น่าสนใจนะครับ สำหรับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียง แถมยังเป็นเพื่อนบ้าน และคู่แข่งทางเศรษฐกิจ การเมือง กันมายาวนาน พอหันกลับมาดูผู้นำของไทยอย่าง พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ที่ได้ตำแหน่งมาด้วยการยึดอำนาจบริหารประเทศจากนายกหญิง แต่งตั้งพวกพ้องรับเงินเดือนกันสบายหลายทาง ลากยาวอำนาจมา 4 ปีกว่าแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะไปง่าย ๆ
เป็นข้าราชการปกติระเบียบจะไม่สามารถรับเงินค่าตอบแทนหลายทางได้ ให้เลือกเอาที่มากที่สุดเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น เพราะวิญญูชนไม่สามารถทำงานหลายหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพแน่นอน เช่น ถ้าคุณรับเงินเดือน 2 ตำแหน่งเต็ม ๆ คุณก็ต้องทำงานตำแหน่งละ 8 ชั่วโมง/วัน เท่ากับว่าต้องทำงานวันละ 16 ชั่วโมง เพื่อให้คุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ แต่ก็เห็นกันอยู่ว่าใน ครม. ไม่มีใครทำอย่างนี้สักคน(ทำงานจริง ๆ ถึง 7 ชม. หรือเปล่า ?)
ในขณะที่ประชาชนรายได้ในกระเป๋าหดหาย แต่ผู้บริหารประเทศที่ยึดอำนาจมา กลับไม่มีสำนึกเสียสละอย่างที่พร่ำบอก รับเงินหลาย ๆ ทางแบบไม่เกรงใจประชาชนผู้เสียภาษี แต่ด้วยอำนาจจากปลายกระบอกปืน และกฎหมายที่ออกกันเองรัว ๆ ประชาชนอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ก้มหน้าทำงานเสียภาษีกันต่อไป อย่าได้รึอาจตั้งคำถาม หรือสงสัย จงไว้ใจและศรัทธาาาาา แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน ....
ภาพจาก https://thematter.co/ |