จากกรณีแก๊งโจรข้ามชาติชาวจีน ตระเวนงัดเซฟในหลายท้องที่ และได้ถูกจับกุมได้นั้น ทำให้เราทราบว่า มีมิจฉาชีพข้ามชาติจากประเทศจีน โดยเฉพาะมณฑลกวางสี ได้เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ งัดเซฟ ในประเทศไทยหลายพื้นที่ และไม่ใช่มีเพียงแค่กลุ่มเดียวเท่านั้น โดยกลุ่มที่ถูกจับกุมเป็นเพียงหนึ่งในเศษเสี้ยวของอาชญากรทั้งหมด
ยังมีกลุ่มที่ก่อเหตุและยังไม่ถูกจับกุมอีกหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มที่ตระเวนงัดตู้เซฟในพื้นที่ จ.สุโขทัย , จ.กำแพงเพชร ฯลฯ ซึ่งได้ทรัพย์สินไปหลายสิบล้านบาท และสามารถหลบหนีกลับประเทศไปได้
โดยพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายนี้ จะบินเข้ามาประเทศไทยเป็นกลุ่ม 3 - 4 คน และไปหาเช่ารถในเมืองท่องเที่ยว จากนั้นก็ขับรถไปยังเป้าหมาย ที่เป็นสถานที่รับซื้อผลิตผลทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง , ข้าว, ข้าวโพด ซึ่งมีองค์ประกอบคือ มีลานซีเมนต์ขนาดใหญ่(ดูจากกูเกิ้ลแมพได้) และ มีสำนักงาน เพราะสถานที่ดังกล่าวจะต้องมีเงินสดเก็บไว้เพื่อจ่ายให้กับเกษตรกร รวมทั้งอาจมีทรัพย์สินอื่นเก็บรวมไว้ด้วย เช่น ทองคำ เครื่องประดับ ฯลฯ
เมื่อเห็นเป้าหมายไม่มียามเฝ้า หรือสำนักงานห่างไกลจากป้อมยาม คนขับขี่ก็จะส่งพรรคพวกลงใกล้กับเป้าหมาย และเดินเท้าเข้าไปงัดประตูหรือหน้าต่าง จากนั้น ก็ยกเซฟออกมางัดในบริเวณใกล้เคียงที่ปลอดคน โดยคนร้ายกลุ่มดังกล่าว ไม่ได้ร่วมมือกับคนไทยแต่อย่างใด เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วก็ไปหลบนอนข้างทาง ไม่ใช้โรงแรมหรือที่พัก จากนั้นก็ก่อเหตุในสถานที่ถัดไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนร้ายแล้ว แต่เนื่องจากคนร้ายได้หลบหนีกลับประเทศจีนไป กว่าจะประสานรับตัวก็ไม่แน่ว่าทรัพย์สินจะได้คืนหรือไม่ เท่าไหร่
ยังมีกลุ่มที่ก่อเหตุและยังไม่ถูกจับกุมอีกหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มที่ตระเวนงัดตู้เซฟในพื้นที่ จ.สุโขทัย , จ.กำแพงเพชร ฯลฯ ซึ่งได้ทรัพย์สินไปหลายสิบล้านบาท และสามารถหลบหนีกลับประเทศไปได้
โดยพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายนี้ จะบินเข้ามาประเทศไทยเป็นกลุ่ม 3 - 4 คน และไปหาเช่ารถในเมืองท่องเที่ยว จากนั้นก็ขับรถไปยังเป้าหมาย ที่เป็นสถานที่รับซื้อผลิตผลทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง , ข้าว, ข้าวโพด ซึ่งมีองค์ประกอบคือ มีลานซีเมนต์ขนาดใหญ่(ดูจากกูเกิ้ลแมพได้) และ มีสำนักงาน เพราะสถานที่ดังกล่าวจะต้องมีเงินสดเก็บไว้เพื่อจ่ายให้กับเกษตรกร รวมทั้งอาจมีทรัพย์สินอื่นเก็บรวมไว้ด้วย เช่น ทองคำ เครื่องประดับ ฯลฯ
เมื่อเห็นเป้าหมายไม่มียามเฝ้า หรือสำนักงานห่างไกลจากป้อมยาม คนขับขี่ก็จะส่งพรรคพวกลงใกล้กับเป้าหมาย และเดินเท้าเข้าไปงัดประตูหรือหน้าต่าง จากนั้น ก็ยกเซฟออกมางัดในบริเวณใกล้เคียงที่ปลอดคน โดยคนร้ายกลุ่มดังกล่าว ไม่ได้ร่วมมือกับคนไทยแต่อย่างใด เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วก็ไปหลบนอนข้างทาง ไม่ใช้โรงแรมหรือที่พัก จากนั้นก็ก่อเหตุในสถานที่ถัดไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ทราบชื่อคนร้ายแล้ว แต่เนื่องจากคนร้ายได้หลบหนีกลับประเทศจีนไป กว่าจะประสานรับตัวก็ไม่แน่ว่าทรัพย์สินจะได้คืนหรือไม่ เท่าไหร่
ขอเตือนภัยกับท่าน ๆ ที่มีทรัพย์สินเก็บไว้ในบ้าน หรือมีลักษณะเข้าข่ายที่เป็นเป้าหมายคนร้าย ขอให้เพิ่มความปลอดภัย หาทางป้องกันเอาไว้ให้รอบคอบ รัดกุมกว่าเดิม เดี๋ยวไม่ใช่แค่มิจฉาชีพในประเทศไทยเท่านั้น มันมาจากต่างประเทศก็มี กันไว้ดีกว่าแก้ครับ
ข่าวการจับกุม https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_1849846
ส่งต่อพรรคพวกแล้วครับ
ตอบลบ