มติชนออนไลน์(25 เม.ย. 58)รายงานว่า ภายหลัง กมธ.ยกร่างฯ ได้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกพร้อมรับฟังข้อเสนอของ สปช.ระหว่างวันที่ 20-26 เมษายนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น โดยที่ผ่านมา กมธ.ยกร่างฯได้ใช้เวลาพิจารณาตั้งแต่ประชุมครั้งแรก วันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 จนวันที่ 26 เมษายน 2558 รวมทั้งสิ้น 88 ครั้ง ได้รับเบี้ยประชุมตาม พ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญบางตำแหน่ง พ.ศ. 2557 มาตรา 4 โดยรวมเบี้ยประชุมทั้งคณะ 36 คน จำนวน 88 ครั้ง ได้รับเบี้ยประชุมรวมทั้งสิ้น 21,912,000 บาท ขณะที่ กมธ.ยกร่างฯยังเหลือการประชุมอีกหลายครั้งจนกว่าจะส่งร่างรัฐธรรมนูญร่างสุดท้ายให้ สปช.ลงมติไม่เกิน 6 สิงหาคมนี้(ลิงค์ข่าว)
สรุปว่าได้กันไปคนละเกือบเจ็ดพันบาทต่อครั้ง !! ทั้ง ๆ ที่เวลาประชุม ก็เวลาราชการนั่นแหละ ตัวเองก็มีเงินเดือนจากตำแหน่งกันอยู่แล้ว รวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาต่าง ๆ อีก อยากให้สื่อมวลชนสรุปรายได้ของบรรดาองคาพยพเผด็จการทหารไทย ว่ารับกันเหนาะ ๆ คนละเท่าไหร่ตั้งแต่รัฐประหารมา
ประชาชนจะได้ตาสว่าง รู้กันไปเลย ไอ้ที่บอกว่า ข้านี้คือคนดี ข้าคือผู้เสียสละ จริง ๆ แล้วมารับทรัพย์กันมากน้อยเท่าไหร่ นี่ไม่นับว่าหลังจากประกาศใช้จริง บรรดาองค์กรต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ไร้การตรวจสอบนั้น จะนำเอาบรรดา สนช. สปช. ทหารแก่ เข้าไปรับทรัพย์กันอีกเท่าไหร่
แล้วร่างรัฐธรรมนวย ฉบับกระรอกแทะ ที่แพลมกันออกมาก็โดนโจมตีจากทุกฝ่าย ทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ นักวิชาการ ข้าราชการ ฯลฯ ว่าเป็นฉบับถอยหลังลงคลอง ท้าให้ทำประชามติก็ไม่เอา ไม่กล้า ประชามติแบบเลือกกันไปเลยระหว่างฉบับ 40 กับ ฉบับกระรอกแทะ โดยไม่มีเงื่อนไข ถ้า 40 ชนะ พวกเอ็งคืนเงินที่ใช้ไปมาด้วย เพราะประชาชนไม่ได้เลือกพวกเอ็งมานั่งชูคอร่างของที่ไม่มีคุณภาพ ถ้ารัฐธรรมนวยกระรอกแทะ 58 ชนะ เชิญนั่งแดกภาษีประชาชนในตำแหน่งที่สร้างกันขึ้นมาได้ตามใจชอบเลยครับ จะเอาญาติเมีย ลูกหลาน มานั่งเป็นที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญหอกหักอะไรก็ตามสะดวก ผมรู้พวกคุณไม่รู้จักหรอกครับคำว่า "อาย"
